'คอนเทนท์ประเภทความรู้' กำลังมาแรงบน 'ไป่ตู้' ของจีน
หนึ่งสิ่งที่เติบโตขึ้นอย่างมากในประเทศจีนช่วงวิกฤติโควิด-19 ก็คือ การค้นหาหรือมองหาคอนเทนท์บนออนไลน์ประเภทข้อมูลและความรู้ โดยเฉพาะการค้นหาในแพลตฟอร์มไป่ตู้ โดยมีการค้นหามากกว่า 350 ล้านครั้งต่อวัน มาดูกันว่าคนจีนนิยมเสิร์ชหาอะไรกันบ้าง?
เวลานี้ “ข้อมูลและความรู้ (How-to, Knowledge)” กำลังกลายเป็นคอนเทนท์บนออนไลน์ที่มาแรงทั่วโลก รวมถึงในประเทศจีน ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า สาเหตุสืบเนื่องมาจากวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนต้องกักตัวอยู่บ้านและเกิดความต้องการรับข้อมูลข่าวสารที่จำเป็น
ข้อมูลโดย China Internet Watch (CIW) เปิดเผยว่า 2 เดือนที่ผ่านมา ที่หลายเมืองของจีนออกคำสั่งกักตัวป้องกันการระบาดจากโควิด-19 ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตของคนจีนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
อันที่จริงคนจีนก็ใช้งานอินเทอร์เน็ตกันประจำและมหาศาลอยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้เป้าหมายอันดับหนึ่งคือ เรื่องของความบันเทิง แต่ขณะนี้เป้าหมายที่ใช้เพื่อการหาความรู้ กำลังกลายเป็นเทรนด์หลักที่มาแรงมากขึ้น
รายงานของ CIW ยังบ่งชี้ว่า ผู้คนใช้งานเสิร์ชเอ็นจิ้นยอดนิยมอย่างไป่ตู้ เพื่อค้นหาความรู้กันมากขึ้น โดยจำนวนการค้นหาคอนเทนท์ในด้านความรู้เพิ่มมากขึ้นกว่า 350 ล้านครั้งต่อวัน หรือหากเทียบจากปีก่อนเพิ่มขึ้น 86%
โดยคีย์เวิร์ด “K12” และ “ภาษาต่างประเทศ” เป็นคำค้นหายอดนิยมที่สุดบนไป่ตู้มาตั้งแต่ต้นปี โดยคำว่า K2 บนอินเทอร์เน็ตจีน มีความหมายคือ จากระดับอนุบาลถึงมัธยมปลาย (Kindergarten to High School Education)
ขณะที่การเรียนต่อในต่างประเทศมีการค้นหาลดลง 49%, Baidu Mini-Program ที่เกี่ยวกับความรู้เพิ่มขึ้นถึง 30% ด้านของเวลา 15.00 และ 21.00 น. เป็นช่วงเวลาที่มีการค้นหามากที่สุด สถิติพบด้วยว่า จำนวนของคลิปวิดีโอประเภทที่ให้ความรู้มีการอัพโหลด 150 ล้านครั้งต่อวัน
สำหรับในภาพรวมของข้อมูลความรู้ที่คนจีนนิยมค้นหาขณะนี้ เช่น การฝึกอบรม การทำงานเสริม งานอดิเรก การเรียนต่อ และอื่นๆ ฯลฯ สำหรับคีย์เวิร์ดของความสนใจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ งานอดิเรก, เตรียมอนุบาล, โรงเรียนกวดวิชา, เรียนออนไลน์, เรียนต่างประเทศ และเรียนภาษา
ข้อมูลของไป่ตู้ยังชี้ว่า การค้นหาคำที่เกี่ยวกับ K12 พบมากที่สุด สำหรับ ซานตง เหอหนาน และเหอเป่ย นอกจากนี้หลายสถาบันในจีนยังมีความต้องการนักเรียนแลกเปลี่ยนจากต่างชาติ ซึ่งไทยเราก็เป็นหนึ่งในชาติที่มีนักเรียนแลกเปลี่ยนไทย-จีน เพิ่มขึ้นมากในทศวรรษที่ผ่านมา
สำหรับสาขาวิชาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดสำหรับชั้นประถมและมัธยมต้น น่าแปลกใจว่า ไม่ใช่คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ แต่เป็นสาขาภาษาจีน (CLA) ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเพราะเวลานี้ภาษาจีนกำลังได้รับความสำคัญไปทั่วโลก
จีนมีการส่งออกวัฒนธรรมและภาษาออกไปหลายประเทศ ที่เข้าไปมีความร่วมมือทางธุรกิจด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาเซียน ยุโรป และแอฟริกา ดังนั้นความสามารถในทางภาษาจีนจึงสามารถออกไปใช้ประโยชน์ในการทำงานในต่างประเทศได้ด้วย
แต่ก็มีบางส่วนที่ลดลงในการค้นหาบนไป่ตู้ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา (ประมาณช่วงเดือน มี.ค.เป็นต้นมา) คือการค้นหาคำว่า “เรียนต่อต่างประเทศ” ซึ่งมียอดตกลง 49% หากเทียบกับปีก่อนในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นนั่นเอง
ในภาพรวมแล้วไป่ตู้ยังคงเป็นช่องทางการค้นหาที่สำคัญที่สุดของจีน ซึ่งไม่เพียงแต่มีการเข้าไปค้นหาข้อมูลเพื่อศึกษาคอนเทนท์ สำหรับเสริมความรู้และการศึกษาเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ด้านธุรกิจและการตลาดได้ด้วย