'ทัวร์เสมือนจริง' จุดขายฟื้นท่องเที่ยวเอเชีย
การท่องเที่ยวเสมือนจริงผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งไม่ได้เป็นแค่รูปแบบการใช้ชีวิตแบบพิเศษในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เท่านั้น แต่ยังเป็น new normal ของผู้คนยุคโควิดระบาดอีกด้วย
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเอเชียพยายามหลอมรวมการท่องเที่ยวเสมือนจริงเข้ากับการท่องเที่ยวจริงๆ เข้าด้วยกันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวได้กลับมาเที่ยวในจุดหมายปลายทางต่างๆ เหมือนช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 ไล่ตั้งแต่การเที่ยวชมช้างในประเทศไทย จนถึงการเที่ยวชมความสวยงามของปลาสายพันธุ์ต่างๆ ในญี่ปุ่น ซึ่งกระแสตอบรับคึกคัก ทำให้ "ธุรกิจทัวร์ดิจิทัล" สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมากในยุคที่โรคโควิด-19 ยังคงระบาดอยู่
เมื่อเดือนที่แล้ว ชินทาโร โคบาระ วัย 12 ปี จ่ายเงินเพื่อไปเที่ยวในจุดต่างๆ ของสวนน้ำแห่งใหม่ชื่อ ยาชิมะ อะควาเรียม บนเกาะชิโกกุ ประเทศญี่ปุ่น ไล่ตั้งแต่ชม “พะยูน” หายาก ดูความงดงามของเหล่าปลาสวยงามประเภทต่างๆ ภายในสวนน้ำแห่งนี้ แต่กิจกรรมการท่องเที่ยวของโคบาระ เป็นการท่องเที่ยวผ่านหุ่นยนต์อวาตาร์
โคบาระ ใช้คอมพิวเตอร์ของเขาควบคุมหุ่นยนต์ ซึ่งพัฒนาโดยอวาตาริน บริษัทในเครือสายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์ส หรือเอเอ็นเอ โฮลดิงส์ โดยมีทีมงานของบริษัททัวร์สวนน้ำเป็นคนนำเที่ยว เขาชมความงามของเหล่าปลาสวยงามที่มีสีสันสดใสผ่านทางกล้องที่ติดอยู่กับหุ่นยนต์ขณะที่หน้าของเขาปรากDบนหน้าจอของหุ่นยนต์
“ผมได้รู้จักชื่อปลาสวยยามมากมายภายในสวนน้ำแห่งนั้น เป็นการเที่ยวแบบเสมือนจริงที่ควบคุมง่ายมาก และผมรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปเที่ยวที่นั่นด้วยตัวเองจริงๆ มันเหมือนชีวิตจริงมาๆ ผมอยากไปเที่ยวแบบนี้อีก” โคบาระ กล่าว
ประสบการณ์ท่องเที่ยวของโคบาระเป็นส่วนหนึ่งของอีเวนท์ 2 วัน ซึ่งจัดโดยสวนน้ำยาชิมะ บนเกาะชิโกกุ ในช่วงที่ญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเดือนเม.ย.และเดือนพ.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลขอความร่วมมือให้ธุรกิจที่ไม่จำเป็นประเภทต่างๆ ปิดกิจการชั่วคราว
“เราได้รับความเห็นมากมายจากประชาชนผ่านทางอินสตาแกรมให้เราจัดการแสดงของนากและสัตว์ประเภทอื่นๆ ภายในสวนน้ำ ซึ่งอวาตาร์เป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะแสดงให้คนทั่วไปเห็นว่าบรรดาสัตว์ประเภทต่างๆ ภายในสวนน้ำแห่งนี้อยู่กันอย่างไรในช่วงที่สวนน้ำต้องปิดกิจการชั่วคราว และเราเชื่อว่า เมื่อสวนน้ำได้รับอนุญาตให้เปิดให้บริการอีกครั้ง ประชาชนจะเดินทางมาชมสัตว์ต่างๆ ด้วยตัวเองจำนวนมาก” เอมิโกะ คาโตะ จากสวนน้ำแห่งใหม่ยาชิมะ อะควาเรียม ซึ่งเสนอประสบการณ์ทัวร์ดิจิทัลโดยไม่คิดมูลค่า กล่าว
สวนน้ำเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อสันทนาการที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งอ้าแขนรับ “การท่องเที่ยวเสมือนจริง” ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวเกิดความรู้สึกว่าได้ออกไปเที่ยวข้างนอกโดยที่ไม่ได้ออกไปไหน เป็นประสบการณ์การเที่ยวที่เหมาะกับคนที่ต้องติดอยู่แต่ในบ้านเพราะมาตรการล็อกดาวน์ของทางการ ที่อยากมีกิจกรรมทำเพื่อให้ผ่อนคลาย ทั้งยังเป็นผลดีกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรวมทั้งอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย
พระราชวังโปตาลา พระราชวังเก่าแก่อายุหลายร้อยปีในลาซา ทางตะวันตกของจีนก็จัดทำทัวร์ดิจิทัลด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จีนอย่างอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิงส์ เปิดโอกาสให้เหล่าผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับความงามของสถาปัตยกรรมทิเบตแบบโบราณผ่านทางไลฟ์สตรีมมิ่งเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ ยังมี วัดถ้ำแห่งตุนหวง (Mogao Caves of Dunhuang) เป็นสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์บนหน้าผาของเขาหมิงซา กลางทะเลทรายโกบี ห่างจากตัวเมืองตุนหวง ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 25 กม. ผาหินถูกเจาะเป็นถ้ำจำนวนทั้งสิ้น 492 ถ้ำ ภายในเป็นที่บรรจุพุทธประติมากรรม และภาพเขียนพุทธประวัติต่างๆ ในอดีตกาล และส่วนใหญ่ของถ้ำแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาและการเมือง
ในจำนวนถ้ำ 492 ถ้ำโม่เกา (Mogao) เป็นถ้ำมีขนาดใหญ่ที่สุดและอายุเก่าแก่มาก รู้จักกันในชื่อ “ถ้ำพระพุทธรูปพันองค์” แกะสลักหน้าผาทางซีกตะวันออกของภูเขาหมิงซา รวมความยาว 1,600 เมตร ทุกตารางนิ้วของผนังถ้ำเต็มไปด้วยภาพวาดและรูปสลักทางศาสนา และถ้ำแห่งนี้มีภาพผนังกินเนื้อที่กว่า 45,000 ตารางเมตร
นักโบราณคดีตะวันตกขนานนามภาพผนังแห่งนี้ว่า “ห้องสมุดบนผนัง” ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวลือชื่ออีกแห่งที่ร่วมมือกับเทนเซนต์ โฮลดิงส์ ยักษ์ใหญ่สื่อสังคมออนไลน์ของจีนจัดทำทัวร์ออนไลน์บนแอพพลิเคชั่นวีแชท เพื่อให้ผู้ใช้งานวีแชท 1.1 พันล้านคนของบริษัทสามารถชื่นชมความงามของภาพวาดบนผนังถ้ำโบราณได้ทั้งหมดจากบ้าน
“การท่องเที่ยวเสมือนจริงผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งไม่ได้เป็นแค่รูปแบบการใช้ชีวิตแบบพิเศษในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เท่านั้น แต่เป็นนิวนอร์มอล หรือความปกติใหม่ของผู้คนในยุคหลังการระบาดของโรคร้าย” ซู เซียง ซึ่งบริหารแผนกไลฟ์สตรีมมิ่งของบริษัทฟลิกกี้ หน่วยงานด้านการท่องที่ยวในเครืออาลีบาบา กล่าว
โดยตั้งแต่เดือนก.พ.เป็นต้นมา แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวนี้แพร่ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ในรูปแบบไลฟ์สตรีมมิ่งไปแล้วอย่างน้อย 25,000 เหตุการณ์ ดึงดูดผู้ชมจำนวนกว่า 70 ล้านคน
ซีทริป หนึ่งในบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ใหญ่สุดของจีน ที่ดำเนินการภายใต้บริษัทชื่อ ทริปดอทคอมกรุ๊ป ก็หันมาให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจท่องเที่ยวเสมือนจริง โดยประกาศเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่าจะลงทุน 1,000 ล้านหยวน (140 ล้านดอลลาร์)ในแผนฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยว ที่รวมถึงการท่องเที่ยว “คลาวด์”
โดยบริษัทจับมือเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวและบริษัทด้านการท่องเที่ยวแบรนด์ดังระดับโลกเกือบ 10,000 แห่ง รวมทั้งสายการบิน โรงแรม และผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เปิดโอกาสให้บรรดานักท่องเที่ยวเข้าถึงการท่องเที่ยวแบบออนไลน์โดยใช้วีดิโอแบบไลฟ์สตรีมมิ่ง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้มีการจองตั๋วท่องเที่ยวล่วงหน้าสำหรับช่วงฤดูร้อนและหลังจากนั้นได้ด้วย