'เวิลด์แบงก์'คาดศก.โลกติดลบ 5.2%- ไทย -5.0%
เวิลด์แบงก์(ธนาคารโลก) เผยแพร่รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ประจำปี 2563 โดยระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 จะทำให้ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศของทุกประเทศโลกลดลง 5.2% ในปีนี้
รายงานของธนาคารโลกฉบับนี้ เตือนว่า อาจมีการปรับตัวเลขการคาดการณ์ลดลงอีกในอนาคต หากเกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการระบาดและยังต้องปิดภาคธุรกิจต่าง ๆ ต่อไป
ธนาคารโลก ให้รายละเอียดว่า เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วจะติดลบ 7.0% ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศที่ตลาดกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วจะติดลบ 2.5% และหากพิจารณาในส่วนของจีดีพีต่อหัวประชากร จะพบว่าการหดตัวของเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2488-2489 ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
นอกจากนี้ ธนาคารโลก ยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐ และญี่ปุ่นจะขยายตัวที่ -6.1% เศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซน -9.1% เศรษฐกิจบราซิล -8.0% เศรษฐกิจอินเดีย -3.2% และเศรษฐกิจไทย -5.0% ส่วนเศรษฐกิจจีน คาดการณ์ว่า จะขยายตัวที่ระดับ 1.0% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมกราคมว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.0%
การคาดการณ์ของธนาคารโลกครั้งนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า มาตรการล็อคดาวน์และการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ประเทศต่าง ๆ นำมาใช้ จะเริ่มผ่อนคลายในช่วงปลายเดือนมิ.ย. แต่หากมีการขยายเวลาการใช้ล็อคดาวน์ออกไปอีกสามเดือน ธนาคารโลกคาดว่า เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วอาจจะขยายตัวที่ -8% ถึง -10% และ -5% สำหรับเศรษฐกิจของประเทศที่ตลาดกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งกรณีนี้จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าด้วย
รายงานฉบับนี้ของธนาคารโลก ยังประเมินด้วยว่า จะมีประชากรโลกที่ถูกผลักเข้าสู่ภาวะยากจนขั้นรุนแรง สืบเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ประมาณ 70 - 100 ล้านคน
เมื่อเดือนเม.ย. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 3.0% โดยไอเอ็มเอฟ มีแผนจะปรับการคาดการณ์อีกครั้งในเดือนมิ.ย. ซึ่งนางคริสตาลินา จอร์จิเอวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ กล่าวว่ามีโอกาสที่ปรับลดการคาดการณ์ลงต่ำกว่าเดิม