'ธรรมนัส'เล็งยึดคืนพื้นที่ชุมชน โรงแรม รีสอร์ท ในเขต ส.ป.ก.นำปล่อยเช่า
“ร.อ.ธรรมนัส” เล็งยึดคืนพื้นที่ชุมชน โรงแรม รีสอร์ท ในเขต ส.ป.ก. ปล่อยเช่าเก็บค่าตอบแทนตามกรณี พร้อมปรับลดค่าเช่าทำเหมืองแร่ คาดแก้กฎหมายแล้วเสร็จใน 3 เดือน
ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรละสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากผลสำรวจพื้นที่สำนักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรรม(ส.ป.ก.) ในเบื้องต้น พบว่า มีพื้นที่ปัจจุบันที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้แล้ว เช่น พื้นที่ที่เป็นรีสอร์ท โรงแรม แหล่งชุมชน และเหมืองแร่ ทั้งหมดนี้ มีนโยบายจะยึดคืน แล้วปรับให้เป็นพื้นที่เช่า โดยจะพิจารณาตามแต่ละกรณี เพื่อนำค่าเช่าเข้ากองทุนปฏิรูปที่ดิน ที่มีวงเงินขณะนี้ ประมาณ 4,000 ล้านบาท แล้วนำเงินเหล่านั้นไปปรับโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาพื้นที่ส.ป.ก. ต่อยอดโครงการแปลงใหญ่
อย่างไรก็ตาม ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเช่าที่ลักษณะดังกล่าว จะต้องปรับแก้กฎหมายให้ ส.ป.ก. สามารถดำเนินการได้ ซึ่งในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ได้ออกร่างกฎกระทรวงเพื่อเปิดทางให้ส.ป.ก. สามารถดำเนินการได้แล้ว ดังนั้น จึงจะหยิบยกมาเพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป โดยเริ่มจากการยึดพื้นที่คืน ซึ่งสามารถทำได้ทันทีตามคำสั่งกระทรวงเกษตรเพื่อให้ ส.ป.ก. ออกประกาศยึดคืน
“พื้นที่มีพัฒนาเป็นโรงแรม หรือรีสอร์ท ดังกล่าวถือว่าเป็นการพัฒนาพื้นที่ไปไกลแล้ว การจะปรับให้มาเป็นพื้นที่การเกษตรอีก จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ไม่ควรทำ แต่ควรจะใช้ประโยชน์จากสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่มีอยู่ โดยการเก็บค่าเช่าโดยใช้อัตราที่กรมธนารักษ์กำหนดเป็นฐาน มาพิจารณาตามมูลค่าทางเศรษฐกิจ และนำเงินมาพัฒนาต่อยอด"
ทั้งนี้ อย่างกรณีพื้นที่ ส.ป.ก. ในจ.ภูเก็ต ผลการสำรวจพบว่า มีโรงแรม รีสอร์ท ตั้งอยู่กว่า 300 แห่ง ที่สมุยอีก 100 แห่ง ส่วนพื้นที่ชุมชน เช่นหน้ามหาวิทยาแม่ฟ้าหลวง จ. เชียงราย ที่กลายเป็นหอพัก ร้านค้า เจริญไปมาก ทั้งหมดนี้ต้องยึดคืนและเก็บค่าเช่าทั้งหมด โดยได้สั่งการให้ส.ป.ก. สำรวจรายละเอียดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
สำหรับเหมืองแร่ พบว่า เอกชนที่ขอสัมปทานเช่าที่ส.ป.ก. ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้แล้ว แต่ตามกฎหมาย ส.ป.ก. กำหนดค่าเช่าไว้สูงมาก 40,000 บาท ซึ่งภาคเอกชนต้องเช่าพื้นที่เป็นวงกว้างในบริเวณเหล่านั้นทั้งหมดเพื่อสำรวจสายแร่ บางรายพบสายแร่สั้นๆไม่ครอบคลุมพื้นที่ที่เช่าไว้ทั้งหมด จึงไม่คุ้มกับการลงทุน
ดังนั้น ส.ป.ก. จึงจะปรับแก้กฎหมาย ลดค่าเช่าพื้นที่เพื่อทำเหมืองแร่ให้ถูกลง เป็นธรรมกับผู้เช่า ทั้งหมดนี้จะแก้กฎหมายเพื่อ ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หลังจากนั้น จะเริ่มเดินหน้าทันที เพื่อนำเงินที่ได้จากค่าเช่ามาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นำร่องคือโครงการแปลงใหญ่ เช่นพื้นที่ปลูกส้มโอที่ จ.เชียงใหม่ จึงร้องขอใช้เงินกองทุนเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ