ค้าปลีกโหม 'ฮาร์ดเซล' กระตุ้นยอดขาย

พร้อมเดินหน้าสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว โดยมหกรรม "เปิดท้ายขายของ" อีเวนท์ใหญ่ในห้วงวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540-2541 ได้นำกลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง 

ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น  ผู้บริหารศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์,เซ็นทรัลพลาซา,เซ็นทรัลเฟสติวัล,เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัล วิลเลจ กล่าวว่า เซ็นทรัลได้เปิดพื้นที่ลานหน้าศูนย์การค้า 7 สาขาทั่วกรุงเทพฯ จัดงาน “Revival Market” คาราวานเปิดท้ายขายของรองรับกลุ่มผู้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด อาทิ กลุ่มพนักงานสายการบิน กลุ่มไกด์ท่องเที่ยว พริตตี้และเอ็มซี นักดนตรีและดีเจ กลุ่มผู้จัดอีเวนท์ ผู้จัดรายการทีวี พนักงานโรงแรมและเชฟ เพื่อช่วยสร้างรายได้ พร้อมเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปได้ช้อปสินค้าราคาเบาๆ ทุกวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ ตลอดเดือน มิ.ย.

ไฮไลท์สินค้าที่จำหน่าย เช่น สินค้าแบรนด์เนมมือสอง สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เครื่องครัว ต้นไม้ สินค้าเด็ก สินค้าแฮนด์เมด เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าแฟชั่น อุปกรณ์แต่งผม อาหารและเครื่องดื่มโฮมเมด โดย 7 สาขา ได้แก่  

เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, รัตนาธิเบศร์, แจ้งวัฒนะ, ลาดพร้าว, พระราม2  และ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์  

สเตฟาน จูเบิร์ท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้า และรักษาการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า โรบินสัน มีแผนต่อยอดธุรกิจหลังห้างกลับมาเปิดบริการอีกครั้งกับแพลตฟอร์มการขาย 4 ช่องทาง ทั้งโรบินสันออนไลน์ โรบินสันเฟซบุ๊กไลฟ์ โรบินสันแชทแอนด์ช้อปผ่านไลน์แอทโรบินสัน และโรบินสัน คอลแอนด์ช้อปผ่านโทรศัพท์

"วิกฤติโควิดให้บทเรียนใหม่ๆ แก่ธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะการทำมาร์เก็ตติ้ง อย่างช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.เป็นช่วงปิดห้างจนถึงเริ่มคลายล็อกดาวน์ของธุรกิจห้างสรรพสินค้าในระยะแรก โรบินสัน มีการปรับตัวทางธุรกิจครั้งใหญ่ โดยใช้แพลทฟอร์มการขาย4ช่องทางเป็นหัวหอกสำคัญ เพื่อทดแทนและช่วยเพิ่มโอกาสในขาย โดยรวมเติบโตในทิศทางที่น่าพอใจ"

ทั้งนี้ แพลตฟอร์มโรบินสันออนไลน์ ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีนักช้อปเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 100% ส่งผลให้ยอดการช้อปเพิ่มขึ้น 200% กลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องใช้และของตกแต่งบ้านสินค้าสุขภาพและความงาม และสินค้าแม่และเด็ก 

โรบินสันแชทแอนด์ช้อป ยอดขายเพิ่มขึ้น 451% จำนวนการซื้อขาย(Transaction)เพิ่มขึ้นถึง 639% และอีก 2 ช่องทางใหม่ที่เกิดช่วงโควิด โรบินสัน คอลแอนด์ช้อป มียอดสั่งซื้อ 110,500 คำสั่งซื้อ ยอดเฉลี่ยต่อใบเสร็จราว 2,040 บาทส่วน โรบินสันเฟซบุ๊กไลฟ์ มียอด 106,000 คำสั่งซื้อ ยอดเฉลี่ยต่อใบเสร็จ 990 บาท ซึ่งกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยม คือ เครื่องใช้และของตกแต่งบ้าน สินค้านาฬิกาและเครื่องประดับ สินค้ารองเท้าและกระเป๋าสตรี ตามลำดับ

เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายต่อเนื่อง โรบินสัน จัดแคมเปญ “ช้อปด้วยใจ ไทยช่วยกัน” ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.-20 ก.ค.สินค้าลดสูงสุด 70% สมาชิกเดอะวันรับสิทธิลดเพิ่ม 12.5%  ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ รับคูปองส่วนลดสูงสุด 5,000 บาทเมื่อช้อปตามเงื่อนไข เป็นต้น 

ปฐพงศ์ เอี่ยมสุโร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกโดยรวมได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมในมิติต่างๆ จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้พฤติกรรมการชอปปิงของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป เกิดการปรับตัวในวิถีชีวิตแบบใหม่ (New Normal) การเลือกชอปปิงจากช่องทางออนไลน์มากขึ้น 

อย่างไรก็ดี จากมาตรการการช่วยเหลือและเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดนั้น ส่งผลต่อการจับจ่ายและยอดขายที่เพิ่มขึ้นในสินค้าบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวกับช่วงฤดูร้อน เช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ รวมถึง คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยสภาพอากาศที่ร้อนมาก และลูกค้า “อั้น” การซื้อก่อนหน้านี้  พบว่า ยอดขายกลุ่มสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น 30-40% กลุ่มคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค เพิ่มขึ้นกว่า 50%

พร้อมกันนี้ บิ๊กซี จัดโปรโมชั่น “ลดสนั่น ช้อปสนุก” วันที่ 11-24 มิ.ย.นี้ นำเสนอสินค้าราคาพิเศษและสร้างทางเลือกหลากหลายผ่านสินค้าแบรนด์ดัง โดยเฉพาะกลุ่มอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า (happy at home) ประกอบด้วย กลุ่มอุปกรณ์เสริมการเรียนรู้ การทำงาน การประกอบอาหาร สอดรับความต้องการของลูกค้าเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน แบบ happy at home  คาดว่ายอดขายกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น เท่าตัว!