'ดาวโจนส์'ร่วงเกือบ300จุดหลังเฟดคาดศก.สหรัฐหดตัว
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ(10มิ.ย.)ปรับตัวลง หลังเฟดรับประกันนักลงทุนว่าจะเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจ แต่ประมาณการว่าจีดีพีในปีนี้จะหดตัว 6.5%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 282.31 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 26,989.99 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 17.04 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 3,190.14 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 66.59 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 10,020.35 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีแนสแด็ก ทุบสถิติสูงสุดเป็นประว้ติการณ์ 3 วันติดและเป็นครั้งแรกที่ปิดเหนือ 10,000 จุด
ในแถลงการณ์ด้านนโยบายล่าสุด เฟด ประมาณการว่าตัวเลขคนว่างงานจะลดลงเหลือ 9.3% ในช่วงสิ้นปีนี้ จากระดับ 13.3% ในปัจจุบัน และยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระดับใกล้ๆศูนย์เปอร์เซ็นต์ไปจนกว่าเศรษฐกิจจะอยู่บนเส้นทางของการฟื้นตัว อย่างน้อยก็ตลอดทั้งปี 2563
“การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสก่อความทกุข์ยากต่อมนุษย์และเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทั้งสหรัฐและทั่วโลก วิกฤตด้านสาธารณสุขที่กำลังเกิดขึ้น จะฉุดรั้งอย่างหนักต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อในระยะสั้น รวมถึงเป็นความเสี่ยงใหญ่หลวงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาว” คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐกล่าว
นอกจากนี้ ในการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ ยังระบุว่าอาจต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมไปตลอดทั้งปี 2565 เป็นอย่างน้อย ก่อนจะค่อยๆขยับขึ้นมาใกล้ระดับ 2.5% ในระยะยาว
เฟด ระบุด้วยว่าจะยังคงดำเนินการเพื่อรับประกันว่าครัวเรือนต่างๆและภาคธุรกิจจะสามารถเข้าถึงสินเชื่อ ด้วยการเดินหน้าเข้าซื้อสินทรัพย์ต่างๆ อย่างเช่นพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันต่อไป