'แรมโบ้' เห็นด้วยกับผลโพล ชี้ประชาชนต้องการคนซื่อสัตย์ สุจริต ช่วยงานนายกฯ
"แรมโบ้" เห็นด้วยผลสำรวจโพล ประชาชนต้องการคนซื่อสัตย์ สุจริต ช่วยงานนายกฯ และประชาชนอยากให้ สส.ในพื้นที่ช่วยรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้ประเทศ
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นด้วยกับผลสำรวจความคิดเห็น "ซูเปอร์โพล" ที่ประชาชนส่วนใหญ่ ขอคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตตามศาสตร์พระราชา ไม่ถอนทุนคืนไม่มีประวัติด่างพร้อย เข้าช่วยงานนายกรัฐมนตรี
เพราะตั้งแต่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน จะเห็นว่าได้เลือกคนที่ถูกต้องและตรงกับงาน เพราะทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน จนสามารถแก้ไขสถานการณ์ปัญหาต่างๆของประเทศได้ดีขึ้นในหลายๆเรื่อง ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังประสพวิกฤตอย่างหนักไม่ว่าจะเป็นวิกฤตไวรัสโควิด วิกฤตด้านเศรษฐกิจ แต่ประเทศไทยสามารถฝ่าฟันให้ดีขึ้นตามลำดับ
ขณะเดียวกันนายกฯ ยังเน้นย้ำในเรื่องของการปราบปรามการทุจริต และการบริหารงานต้องโปร่งใส ยิ่งในครม.รัฐบาลชุดนี้นายกเน้นย้ำห้ามมีการทุจริตเด็ดขาด จนทำให้รัฐบาลมีภาพพจน์ที่ดีในสายตาประชาชน จนทำให้ผลโพลหลายสำนักประชาชนมีความชื่นชมว่านายกฯและครม.บริหารงานได้ดีมาก ปราศจากข้อกล่าวหาการทุจริตคอร์รัปชั่น
ทั้งนี้ยังเป็นที่น่าสนใจที่ผลสำรวจความคิดเห็น ระบุว่ากลุ่มคนที่จะกระโดดหนีนายกฯเป็นกลุ่มแรกหากเกิดปัญหาคือสส.ที่ปากบอกว่ารักนายกฯตอนที่นายกฯมีอำนาจ โดยหากมี สส.ในลักษณะดังกล่าวจริงก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่ในความเห็นส่วนตัว ตนยังมั่นใจว่าจะไม่มีปรากฎการณ์เช่นนั้นเพราะ สส.ในฐานะที่เป็นตัวแทนประชาชนในพื้นที่ควรที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือประชาชน เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 1 ปี ของรัฐบาล สส.ในซีกฝ่ายรัฐบาลทุกคนร่วมมือกันช่วยงานรัฐบาลและยืนเคียงข้างนายกฯด้วยความทุ่มเทอย่างเต็มที่เพราะจิตวิญญาณการเป็นสส.คือผู้รับใช้ประชาชนรับใช้ประเทศชาติเช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี
นายสุภรณ์ระบุว่า "นายกฯได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศและประชาชน ซึ่งรัฐบาลเพียงลำพังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จะต้องได้รับความร่วมมือจากสส.ทุกคนทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงประชาชนคนไทยทุกคนด้วย
ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาของนายกฯ และรัฐบาลโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ยังสามารถแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี จนเป็นที่ยอมรับของคนในประเทศและนานาประเทศ โดยจะเห็นได้จากองค์การอนามัยโลก ได้มีการจัดอันดับ 10 ประเทศและดินแดนที่มีคะแนนฟื้นตัวที่ดีที่สุดจากโควิด-19 จากข้อมูลดัชนี Covid-19 ระดับโลก (Global COVID-19 Index) ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 2 รองจากออสเตรเลีย
ดังนั้นขอให้มั่นใจในตัวนายกฯในการทำงานให้กับประเทศที่ทำเพื่อคนไทยทุกคนและเพื่อประเทศไทยของเรา ผลจากที่ประเทศไทยได้อันดับ 2 ของโลก เราคนไทยทุกคนต้องภาคภูมิใจร่วมกัน ผลสำเร็จครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทุกคน ไม่ได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง เป็นเพราะคนไทยมีความสามัคคีกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประเทศเราจึงได้รับการยกย่องและได้รับการจัดลำดับอันดับ 2 ของโลกในครั้งนี้" นายสุภรณ์กล่าว