‘พรีเมียร์ลีก’ วันที่ไร้แฟนบอลในสนาม ทีมไหนส่อสูญรายได้มากสุด!?

ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. พรีเมียร์ลีกประกาศพักแข่งขันในฤดูกาล 2019/20 ซึ่งยังเหลือ 9-10 นัดสุดท้าย เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเกือบ 3 แสนคนและผู้เสียชีวิตกว่า 4 หมื่นคนในสหราชอาณาจักร (ณ วันที่ 17 มิ.ย.) ทำให้ขณะนี้ทั้ง 20 สโมสรต้องสูญเงินจำนวนมหาศาลจากที่ควรได้ในช่วงเวลาปกติอย่างเลี่ยงไม่ได้

ขณะเดียวกัน แม้ว่าได้ฤกษ์กลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งวันที่ 17 มิ.ย. แต่เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลในอังกฤษ โดยเฉพาะพรีเมียร์ลีก มีแฟนบอลเข้าสนามนับหมื่นคนในแต่ละเกม ทำให้นัดที่เหลือหลังจากนี้ต้องเตะกันแบบปิดสนามจนจบฤดูกาล เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดแบบกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ ที่อาจลุกลามจนยากเกินจะควบคุม

ก่อนเกิดวิกฤติโรคระบาดทั่วโลก รายได้ของทีมพรีเมียร์ลีกถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น ในฤดูกาล 2018/19 ทั้ง 20 สโมสรในลีกสูงสุดของอังกฤษโกยรายได้ทะลุ 5,000 ล้านปอนด์ (กว่า 1.96 แสนล้านบาท) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่การระงับแข่งขันช่วงโควิดนี้น่าจะส่งผลกระทบหนักต่อรายได้ของหลายทีม

“ดีลอยท์” (Deloitte) บริษัทการเงินระดับโลก คาดการณ์ว่า การระบาดของโควิด-19 จะส่งผลให้ทุกทีมในพรีเมียร์ลีกสูญเสียรายได้รวมกว่า 1,000 ล้านปอนด์ในฤดูกาล 2019/20 โดยครึ่งหนึ่งหรือ 500 ล้านปอนด์เป็นเงินที่ทุกทีมต้องคืนให้กับสถานีโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดสด และการเสียรายได้จากวันที่แข่งในบ้านตัวเอง หรือ “แมตช์เดย์”

แดน โจนส์ หัวหน้าฝ่ายกลุ่มธุรกิจกีฬาของดีลอยท์ ประเมินว่า การระบาดของโควิด-19 ที่ยังต่อเนื่องถึงตอนนี้ จะทำให้สโมสรฟุตบอลทั่วยุโรปสูญเสียรายได้อย่างมหาศาลและขาดทุนจากการดำเนินงานในปีงบการเงินปัจจุบัน

“หลายสโมสรต้องรับมือผลกระทบทางการเงินต่าง ๆรวมถึงรายได้จากการถ่ายทอดสด การเสียรายได้แมตช์เดย์ และรายได้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง”

 

• 6 ทีมยักษ์ใหญ่เจ็บหนัก

เมื่อประเมินเป็นรายทีม พบว่า 6 ทีมชั้นนำของพรีเมียร์ลีกเป็นกลุ่มที่สูญเงินในกระเป๋ามากที่สุดเทียบกับทีมที่เหลือในลีก ซึ่งก็ถือว่าไม่ผิดคาดนัก

เว็บไซต์สปอร์ตสเมล (Sportsmail) ในเครือเดลีเมล สื่อยักษ์ใหญ่ของอังกฤษคำนวณรายได้ที่แต่ละทีมน่าจะสูญเสียในช่วงวิกฤติโควิด-19 โดยในช่วงปกติ รายได้หลักของทีมในพรีเมียร์ลีกจะมาจาก 3 ทางคือ 1. ส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด 2. รายได้ค่าตั๋ววันแข่งในสนามเหย้า และ 3. รายได้จากการขายสินค้าและโฆษณา

แต่การกลับมาแข่งแบบปิดสนามย่อมทำให้ทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีกขาดรายได้จากค่าตั๋วเข้าสนาม และเมื่อไม่มีแฟนบอล สโมสรก็ขาดรายได้จากการขายสินค้าที่สนามเหย้าของตัวเอง ดังนั้น หากจะประเมินรายได้ที่หายไปของแต่ละทีมในช่วงการแข่งแบบปิดสนาม จะต้องดูว่าทีมไหนเสียรายได้ค่าตั๋วและค่าขายสินค้ามากที่สุด

 

• “แมนฯ ยูไนเต็ด” สูญเงินมากสุด

ตัวเลขในบทวิเคราะห์ของสปอร์ตสเมลคาดการณ์จากรายได้เฉลี่ยต่อแมตช์ต่อสโมสร ขึ้นอยู่กับจำนวนเกมเหย้าที่เหลือในฤดูกาลนี้ของแต่ละทีม และสโมสรที่เสียประโยชน์จากเม็ดเงินส่วนนี้มากที่สุดคือ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ขาดรายได้รวมถึง 68.4 ล้านปอนด์ แบ่งเป็นค่าตั๋ว 17.6 ล้านปอนด์ และยอดขายสินค้าที่สนาม 50.8 ล้านปอนด์

ขณะที่อันดับ 2 คือ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ขาดรายได้รวม 55.6 ล้านปอนด์ แบ่งเป็นค่าตั๋ว 13.9 ล้านปอนด์ และยอดขายสินค้า 41.7 ล้านปอนด์

อันดับ 3 คือ จ่าฝูงอย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลที่ขาดรายได้ 47.4 ล้านปอนด์ แบ่งเป็นค่าตั๋ว 13.6 ล้านปอนด์ และยอดขายสินค้า 33.8 ล้านปอนด์ ตามมาด้วย “สิงห์บลู” เชลซี สูญรายได้รวม 41.8 ล้านปอนด์ แบ่งเป็นค่าตั๋ว 10.9 ล้านปอนด์ และยอดขายสินค้า 30.9 ล้านปอนด์

ส่วน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส ขาดรายได้ 41.1 ล้านปอนด์ แบ่งเป็นค่าตั๋ว 16.8 ล้านปอนด์ และยอดขายสินค้า 24.3 ล้านปอนด์ และอันดับ 6 คือ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่สูญเงินรวม 34.8 ล้านปอนด์ แบ่งเป็นค่าตั๋ว 15.4 ล้านปอนด์ และยอดขายสินค้าในสนาม 19.4 ล้านปอนด์

 

• แนะจำกัดเพดานค่าเหนื่อย

โจนส์ จากดีลอยท์ บอกว่า การกลับมาแข่งฟุตบอลอีกครั้งด้วยวิธีการที่ปลอดภัยและสมเหตุสมผล มีความสำคัญอย่างมากต่อการจำกัดผลกระทบทางการเงินจากโรคระบาดที่มีต่อสโมสรฟุตบอล และแนะว่า การจำกัดเพดานค่าเหนื่อยนักเตะน่าจะช่วยให้ทีมอยู่รอดได้ในระยะยาว

“เมื่อคุณมีสัดส่วนค่าเหนื่อยผู้เล่นอยู่ที่ 107% ของรายได้ที่กันไว้สำหรับจ่ายค่าเหนื่อย คุณจะเจอปัญหาในไม่ช้า” โจนส์เสริม “แม้วิธีนี้เถรตรงไปหน่อย แต่หากคุณสามารถกำหนดเพดานค่าเหนื่อยนักเตะไว้ที่ 70% ของรายได้ที่กันไว้จ่ายค่าเหนื่อย และใช้วิธีนั้นในฤดูกาล 2018/19 คุณจะประหยัดรายจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะได้ถึง 300 ล้านปอนด์และลดตัวเลขขาดทุนลงด้วย”

----------------------------------------------------------------------------------

อ้างอิง: Yahoo Sport, Deloitte, Dailymail