พยาบาลน้ำตาร่วง! ถาม 'สธ.' เป็นลูกจ้างมา 10 ปีไม่ได้บรรจุ แต่เด็กจบใหม่ได้
ร้องศูนย์ดำรงธรรม! "พยาบาล" น้ำตาร่วงรู้สึกท้อ ถาม "บิ๊กสธ." เป็นลูกจ้างมา 10 ปีไม่ได้บรรจุ แต่เด็กจบใหม่ได้
ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มพยาบาลวิชาชีพที่เป็นลูกจ้างรายเดือน ของโรงพยาบาลประจำอำเภอวารินชำราบ และโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม กรณีเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2563 คณะรัฐมนตรีมีมติจัดสรรอัตราบรรจุข้าราชการแก่พนักงานราชการ ลูกจ้างชั่วคราว (รายเดือน) สังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานเป็นด่านหน้าในสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จำนวน 38,105 อัตราใน 24 สายงาน
ต่อมา เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฝ่ายบุคลากรแจ้งให้ผู้ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติของข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ยื่นแบบแสดงความประสงค์ขอรับการบรรจุเข้ารับราชการตามมติของคณะรัฐมนตรีได้
แต่ปรากฏเมื่อมีการประกาศรายชื่อคัดเลือกรอบแรกที่จะได้รับการบรรจุเข้าเป็นข้าราชการในส่วนของโรงพยาบาลประจำอำเภอวารินชำราบรอบแรกกว่า 40 คน ในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ มีรายชื่อของเจ้าหน้าที่ พยาบาลวิชาชีพ ตามสายงานที่บางคนเพิ่งจบใหม่เพียง 2-3 ปี ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง แต่เจ้าหน้าที่หรือพยาบาลบางคนเข้าทำงานมาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีรายชื่อได้รับการบรรจุทั้งที่ทำงานมาก่อน จึงได้มาร้องเรียนขอความเป็นธรรม
นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้เชิญกลุ่มพยาบาลที่มาร้องขอความเป็นธรรม เข้าหารือในห้องประชุมภายในศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และได้สอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีปัจจัยจากหลายส่วน อาทิ การเสนอชื่อผู้ที่จะได้รับการบรรจุแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลไม่เรียงลำดับอาวุโสตามอายุงาน
หรือบางราย ซึ่งปีที่แล้วอยู่ในลำดับต้นๆ จะต้องได้รับการบรรจุก่อน แต่รายชื่อกลับตกหล่นหายไป หรือบางรายมีเอกสารไม่ครบถ้วน จึงไม่มีรายชื่อในการเรียกบรรจุในรุ่นนี้เป็นต้น ทำให้กลุ่มเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ไม่มีรายชื่อได้รับการบรรจุครั้งนี้ เกิดความไม่มั่นใจในระบบการคัดเลือกผู้ที่จะได้รับการบรรจุตามมติรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 เมษายนออกมาร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้
ซึ่งขณะนี้ ในส่วนโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์และโรงพยาบาลประจำอำเภอวารินชำราบ มีรุ่นพี่ที่ทำงานมานานและยังไม่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการตามอาวุโสรวมกันกว่า 60 คน
นางภัชราพร สะอาด อายุ 28 ปี พยาบาลวิชาชีพ ซึ่งเป็นลูกจ้างรายเดือน กลุ่มงานอุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลประจำอำเภอวารินชำราบ กล่าวว่า ช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด 19 พวกตนที่ปฏิบัติงานประจำห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นด่านหน้าที่ต้องเจอกับผู้ป่วยที่อาจติดเชื้อโรคระบาดก่อนเจ้าหน้าที่พยาบาลกลุ่มใด ก็ได้ทำงานมาอย่างต่อเนื่องตลอด 3 เดือน เพราะมีความหวังจะได้รับการบรรจุเข้าเป็นข้าราชการ เหมือนรุ่นพี่ที่ได้รับการบรรจุไปแล้ว
บางคนมีลูกเล็ก หรือมีแม่ที่นอนป่วยอยู่ห้องไอซียู ก็ไม่ได้กลับบ้านไปเยี่ยมเยือนดูแล เพราะต้องการตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด เพื่อควบคุมโรคให้ได้ตานโยบายของรัฐบาล แต่เมื่อมีการประกาศรายชื่อผู้ได้รับการบรรจุในรอบแรกออกมา ทำให้รู้สึกท้อที่ไม่มีรายชื่อได้รับการบรรจุ แม้จะมาทำงานก่อนรุ่นน้อง 2-3 ปี
เมื่อสอบถามไปยังผู้ใหญ่ในโรงพยาบาล ก็ได้รับคำตอบไม่ชัดเจน ขอให้รอในรุ่นต่อไป จึงต้องการความชัดเจนถึงกระบวนการคัดเลือกผู้สมควรได้รับการบรรจุ จึงรวมตัวกันมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับทางจังหวัด เพื่อให้เกิดความมั่นใจในวันนี้
ซึ่งนายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้ให้เจ้าหน้าที่และพยาบาลที่มีรายชื่อตกหล่นทั้งหมด รวบรวมรายชื่อทำเป็นหนังสือยื่นกลับมายังจังหวัด เพื่อจังหวัดจะนำรายชื่อแจ้งไปยังกระทรวงสาธารณสุข ให้พิจารณาบรรจุเข้าเป็นข้าราชการเป็นกลุ่มแรก เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พยาบาลกลุ่มนี้ด้วย
ด้านแหล่งข่าวกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงพยาบาลทั้งสองแห่ง นอกจากการจัดส่งรายชื่อไม่เรียงลำดับแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการจัดเก็บเอกสารการประกอบวิชาชีพของผู้มีคุณสมบัติ ทั้งจากโรงพยาบาลต้นทางและปลายทางที่กระทรวงสาธารณสุขไม่เรียบร้อย ทำให้รุ่นน้องที่จบใหม่ ที่มีเอกสารพร้อมได้รับการบรรจุเข้าไปรุ่นแรกให้ทันวันที่ 29 มิถุนายนนี้
ส่วนรุ่นพี่ที่เอกสารยังไม่พร้อม เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลอยู่ระหว่างกำลังจัดเตรียมเอกสารของผู้สมควรได้รับการบรรจุเข้าเป็นข้าราชการ เพื่อให้ได้รับการบรรจุในรุ่นต่อไป ซึ่งทั้งหมดจะต้องได้รับการบรรจุเข้ารับราชการตามมติคณะรัฐมนตรีก่อนสิ้นเดือนสิงหาคมศกนี้ แต่บางคนก็อาจมีอาการน้อยใจ และไม่มั่นใจ เพราะบางคนรอการบรรจุมานานนับสิบปี เมื่อมีโอกาส แต่ก็ยังไม่เห็นรายชื่อของตนเองได้รับบรรจุในรุ่นแรก