ส.อ.ท.เผยอุตฯระยนต์น่าห่วง ยอดผลิตรถเดือนพ.ค.ร่วงเฉียด70%
ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนพ.ค. 5.6 หมื่นคัน ลดลงเฉียด70% หวังยอดผลิตรถยนต์กระเตื้อง ลุ้นช่วงที่เหลือของปีนี้ผลิตได้เดือนละ 1 แสนคัน ดันทั้งปีทะลุ 1 ล้านคัน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์เดือนพ.ค.2563 มีทั้งสิ้น 56,035 คัน ลดลง 69.1% จากเดือนพ.ค.2562 ซึ่งมองว่าการผลิตรถยนต์ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เพราะเพิ่มขึ้นถึง 126.76% เทียบกับเดือนเม.ย.2563 ที่ผ่านมาที่ผลิตได้ 24,711 คัน ต่ำสุดในรอบ 30 ปี เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์ส่วนใหญ่กลับมาเปิดทำการและโรงงานเริ่มเปิดสายการผลิตรถยนต์ได้
ทั้งนี้ หากโควิด-19 จบในช่วงก.ย.นี้ คาดว่าช่วงที่เหลือของปีนี้ไทยผลิตรถยนต์เฉลี่ยเดือนละ 6 หมื่นคันต่อเนื่อง 7 เดือนรวมผลิตได้ประมาณ 4.2 แสนคัน รวมกับ 5 เดือนที่ผ่านมาผลิตได้ทั้งสิ้น 534,428 คัน จะทำให้ยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ทั้งปีอยู่ที่ 9 แสนคัน ใกล้เคียงเป้าหมายที่คาดไว้ 1-1.4 ล้านคัน และหากสถานการณ์ดีในช่วงที่เหลือ 7 เดือนของปีนี้ ผลิตรถยนต์ได้เดือนละ 1 แสนคัน ทำให้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ผลิตได้ 7 แสนคัน รวมกับ 5 เดือนที่ผ่านมา จะส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ทั้งปีผลิตได้ 1.2 ล้านคัน และกรณีที่ดีที่สุดไทยสามารถผลิตรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้เดือนละมากกว่า 1.4 แสนคัน 7 เดือนผลิตได้ประมาณ 9.8 แสนคัน รวมกับ 5 เดือนทีผ่านมา จะทำให้ทั้งปีผลิตได้กว่า 1.4 ล้านคัน แต่ก็ยอมรับว่าเป็นไปได้ค่อนข้างยากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศว่าจะยุติลงเมื่อไหร่ โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศที่มีผลต่อการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออก เห็นได้จากในเดือนพ.ค.ยอดผลิตเพื่อส่งออกอยู่ที่ 35,965 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 61.93% สอดคล้องกับยอดส่งออกอยู่ที่ 29,894 คัน ลดลง 68.64% แต่รถยนต์บางรุ่นสามารถส่งออกได้เพิ่มขึ้น 63-70% ทำให้ภาพรวมยอดผลิตเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ส่วน ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศผลิตได้ 20,070 คัน ลดลง 76.89% เนื่องจากยังมีรถยนต์อยู่ในสต๊อกของโชว์รูมค่อนข้างมาก สอดคล้องกับยอดขายในประเทศอยู่ที่ 40,418 คัน ลดลง 54.12% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา 34.24% หลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น และมีมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลมาเยียวยา โดยเบื้องต้นคาดการณ์ยอดขายในประเทศปีนี้จะอยู่ระหว่าง 5 -7 แสนคัน ขึ้นอยู่กับโควิด-19 ว่าจะคลี่คลายได้เร็วแค่ไหน
“ยอมรับลูกค้ายังมีความกังวลเรื่องรายได้ในอนาคตที่ไม่มีความแน่นอน ประกอบกับการพิจารณาปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินยังมีความเข้มงวด ทำให้คนไม่เข้าโชว์รูม ทำให้ยอดขายในโชว์รูมลดลง ดังนั้นหากเงินช่วยเหลือของภาครัฐถึงมือประชาชนเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศได้มากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวได้โดยเร็ว”
ขณะที่กรณีการเลิกจ้างแรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์นั้น ยอมรับว่ามีการเลิกจ้างจริง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานสัญญาจ้าง ที่ไม่ใช่พนักงานของบริษัทผลิตรถยนต์ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 20-30% ของแรงงานในอุตสาหกรรมนี้ที่มีประมาณ 7 แสนคน ส.อ.ท.จึงไม่มีตัวเลขการเลิกจ้างในส่วนนั้นที่ชัดเจน ส่วนมากบริษัทที่รับจ้างผลิตชิ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากยอดผลิตรถยนต์ที่ลดลงเพราะโควิด-19 ก็ได้ปรับตัวเปลี่ยนสายการผลิตไปรองรับอุตสาหกรรมอื่นที่เป็นความต้องการของตลาดมากขึ้นแทน เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติบริษัทเหล่านั้นก็กลับมาผลิตชิ้นส่วนป้อนให้อุตสาหกรรมรถยนต์ได้ตามเดิม ส่วนพนักงานประจำของค่ายรถยนต์อาจมีการลาออกโดยสมัครใจบ้างขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท และยังไม่มีตัวเลขที่แน่นอนเช่นกัน