ทลายแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดผ่านแอปฯ TRUE CASH PRO หมุนเวียนกว่า 100 ล้าน
ศปน.ตร. แถลงรวบแก๊งชาวจีน เปิดบริษัทปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดผ่านแอปพลิเคชั่น TRUE CASH PRO ค่าธรรมเนียมสูง หากไม่จ่ายตามกำหนด ถูกข่มขู่สารพัด-ส่งข้อความถึงบุคคลที่สาม สร้างความอับอาย พบลูกหนี้นับหมื่นราย เงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท
ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปน.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. , พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ รอบ ผบช.ก. , พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. , พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี สว.กก.5 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.
แถลงจับผู้ต้องหาชาวจีนเปิดบริษัทปล่อยเงินกู้ผ่านแอพพลิเคชั่น “TRUE CASH PRO” ได้ 5 ราย และนิติบุคคลอีก 2 ราย ในข้อหาร้วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ได้พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 11 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 11 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 35 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พ.ต.อ.ภาดล กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ศปน.ตร. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ว่าได้กู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชั่น TRUE CASH PRO ซึ่งมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยวิธีการจะให้ผู้กู้ติดตั้งแอพพลิเคชั่น ลงในโทรศัพท์มือถือ จากนั้นจะให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ กรอกชื่อ ข้อมูลส่วนตัว เงินเดือน บิลค่าไฟ อาชีพ รายได้ และให้ยินยอมใส่เบอร์โทรผู้ติดต่อ และใส่บัญชีธนาคารที่จะโอนเงินชำระเงินกู้ และดอกเบี้ย เมื่อกู้ผ่านแล้วจะถูกหักค่าธรรมเนียม 22-28 เปอร์เซ็นต์ แต่ลูกหนี้ยังต้องชำระเงินเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย หากไม่ชำระตามกำหนดเวลา จะมีการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ ด่าทอ คุกคาม และมีการส่งข้อความ SMS เกี่ยวกับการเป็นหนี้ให้แก่บุคคลที่สาม ทำให้ผู้กู้ได้รับความอับอาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง จากการสืบสวนพบว่า TRUE CASH PRO ดำเนินการโดยกลุ่มนายทุนต่างชาติ มีเงินหมุนเวียนในระบบต่อเดือน สูงถึงกว่า 100 ล้านบาท มีบัญชีเงินฝากที่เกี่ยวข้องในระบบหลายสิบบัญชี และมีบัญชีลูกหนี้นับหมื่นราย
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีการโอนย้ายเงินไปยังบัญชีต่างๆ อย่างสลับซับซ้อน แบ่งบัญชีเงินฝากเป็นกลุ่มต่างๆ ตามลักษณะการใช้งาน คือบัญชีสำหรับรับโอนชำระหนี้ , บัญชีสำหรับโอนเงินกู้ให้ลูกค้า , บัญชีสำหรับเพิ่มทุนในระบบ และ บัญชีสำหรับแบ่งผลประโยชน์ และยังมีการว่าจ้างบริษัททวงถามหนี้ทวงหนี้แทน เพื่อปกปิดอำพรางความผิด ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีการว่าจ้าง บริษัททวงหนี้แห่งหนึ่ง ย่านโชคชัย 4 ให้ดำเนินการทวงถามหนี้ให้ โดยได้รับรายชื่อลูกหนี้ ให้ติดตามเดือนละประมาณ 5,000 ราย โดยทาง TRUE CASH PRO จะจ่ายค่าจ้างให้รายละ 580 บาท หากสามารถเก็บเงินกู้ได้ครบตามจำนวน สำหรับในส่วนของบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น พบว่ามีชาวจีนเกี่ยวข้องหลายราย ทำหน้าที่ทั้งในส่วนที่เป็น ผู้บริหาร ผู้จัดการ และ เจ้าของบัญชี กก.5 บก.ปอศ. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานการกระทำความผิดของผู้เกี่ยวข้อง และได้ขออนุมัติหมายจับต่อ ศาลแขวงพระนครเหนือ จำนวน 7 ราย และเข้าทำการตรวจค้นที่ตั้งบริษัท TRUE CASH PRO และที่พักผู้ต้องหาย่านพัทยา จ.ชลบุรี และบริษัทรับจ้างทวงหนี้ย่านโชคชัย4 ตรวจยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค คอมพิเตอร์ตั้งโต๊ะ และโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก
จากนั้นได้ดำเนินการอายัดบัญชีเงินฝากที่เกี่ยวข้องกับแอพพลิเคชั่น TRUE CASH PRO จำนวนทั้งสิ้น 31 บัญชี จาก 6 ธนาคาร รวมเงินที่อายัดได้ทั้งสิ้น 22 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับ เงินกู้นอกระบบ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 1 อาคาร กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1599 และ 0 2255 1898 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง