เผย ‘ใจความสำคัญ’ กฎหมายความมั่นคงฮ่องกง
คณะผู้บริหารฮ่องกงเผยรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยกำหนดโทษสูงสุด “จำคุกตลอดชีวิต” สำหรับผู้ฝ่าฝืน
เว็บไซต์เซาท์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ รายงานว่า รัฐกิจจานุเบกษาของคณะผู้บริหารฮ่องกงเผยแพร่ประกาศของนางแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหาร ลงเวลาเมื่อ 23.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอังคาร (30 มิ.ย.) ระบุว่า “กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่” ที่ลงนามโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ หลังการอนุมัติภายในวันเดียวกัน ด้วยเสียงสนับสนุนเอกฉันท์ของคณะกรรมการประจำซึ่งเป็นองค์กรถาวรของสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) ทั้ง 162 คน
อย่างไรก็ดี แม้กฎหมายนี้ไม่มีผลบังคับใช้ย้อนหลัง แต่นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จะมีผลบังคับใช้กับทั้งพลเมืองฮ่องกงและชาวต่างชาติซึ่งมีถิ่นพำนักถาวรในฮ่องกง ตามที่ระบุในมาตรา 38 ของ “เบสิก ลอว์” ซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง
หากผู้ใดกระทำความผิดอาญาที่รวมถึงการแบ่งแยกดินแดน การล้มล้างอำนาจ การก่อการร้าย และการสมคบคิดกับกองกำลังต่างชาติ รวมไปถึงการเรียกร้องให้รัฐบาลต่างประเทศใช้มาตรการคว่ำบาตร ถือเป็น “อาชญากรรม” โดยมีบทลงโทษขั้นสูงสุดคือ “จำคุกตลอดชีวิต”
การปลุกระดมและยุยงส่งเสริมให้เกิดความเกลียดชังและการเป็นปรปักษ์ต่อรัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่ง และคณะผู้บริหารฮ่องกง มีความผิดตามมาตรา 29 ของเบสิก ลอว์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- นักวิเคราะห์เซ็นเซอร์ตัวเอง สังเวยก.ม.ความมั่นคงฮ่องกง
- ‘ฮ่องกง’ จับกุม ชายหนุ่มรายแรกต้าน กม.ความมั่นคงแห่งชาติ
ขณะที่การทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ซึ่งรวมถึงบริการยานพาหนะที่ใช้ในระบบขนส่งมวลชนถือเป็น “การก่อการร้าย” ผู้กระทำผิดนอกจากต้องรับโทษตามกฎหมายแล้ว จะไม่สามารถรับราชการและลงสมัครรับเลือกตั้งในทุกระดับได้
นอกจากนี้ รัฐบาลปักกิ่งจะจัดตั้ง “สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ” ในฮ่องกง ที่มีระบบการทำงานและบุคลากรที่เป็นเอกเทศ หมายความว่า การดำเนินงานไม่ขึ้นกับขอบเขตอำนาจของฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการในฮ่องกง
ที่สำคัญ สำนักงานแห่งนี้สามารถ “แทรกแซง” การพิจารณาคดีความมั่นคงที่ถือว่าร้ายแรง ซึ่งการไต่สวนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติอาจกระทำ “เป็นการภายใน” หรือในทางลับ หากคดีเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับความลับของรัฐ แต่จะมีการเปิดเผยผลการตัดสินต่อสาธารณชนในภายหลัง
ข้อกำหนดในกฎหมายระบุว่า ทั้งหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและฮ่องกง สามารถร้องขอส่งมอบคดีแก่จีนแผ่นดินใหญ่ และการฟ้องร้องคดีจะดำเนินการโดยอัยการที่ได้รับการแต่งตั้งจากอัยการสูงสุดของประชาชน และการพิจารณาคดีจะมีขึ้นในศาลที่กำหนดโดยศาลศาลสูงสุดของประชาชน
“ไม่ว่าจะมีการใช้ความรุนแรงหรือการข่มขู่ใช้ความรุนแรงหรือไม่ แกนนำหรือผู้กระทำผิดร้ายแรงจะถูกลงโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก 10 ปี” กฎหมายความมั่นคงระบุ
กฎหมายฉบับใหม่ให้อำนาจคณะผู้บริหารฮ่องกงแต่งตั้งตุลาการพิเศษเพื่อไต่สวนคดีความมั่นคง และรัฐมนตรีด้านยุติธรรมสามารถใช้วิจารณญาณเองว่า สมควรจัดตั้งคณะลูกขุนด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาของศาลพิเศษในคดีความมั่นคงจะไม่สามารถอุทธรณ์ได้
นอกจากนั้น กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติยังมีมาตราเกี่ยวกับการเพิ่มความเข้มงวดและยกระดับการจัดระเบียบหน่วยงานต่างชาติในฮ่องกง โดยมุ่งเน้นที่องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร หรือ เอ็นจีโอ (NGO) และสื่อมวลชน