เตือน! เปิดเทอม เด็ก 7 ชาติเกือบครึ่ง 'ล้างมือใช้สบู่' ที่รร.น้อยกว่าที่บ้าน

ผลสำรวจระดับโลกโดย Global Hygiene Council (GHC) ซึ่งประเมินความตระหนักรู้เรื่องสุขอนามัยและพฤติกรรมของเด็กใน 7 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 พบว่า เด็กอายุ 5-10 ปี เกือบครึ่งหนึ่ง (42%) ไม่ได้ใช้สบู่ทุกครั้งเมื่อล้างมือที่โรงเรียน และยังพบว่า เด็กทุกประเทศใช้สบู่เมื่ออยู่ที่บ้านมากกว่าที่โรงเรียน

เมื่ออยู่ที่โรงเรียน เด็กไม่ถึงครึ่งหนึ่ง (44%) บอกว่ามีคนคอยเตือนให้ล้างมือทุกครั้งก่อนทานอาหาร ขณะที่เด็กส่วนใหญ่ (71%) บอกว่ามีคนคอยเตือนให้ล้างมือทุกครั้งก่อนทานอาหารเมื่ออยู่ที่บ้าน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุมันธ์ กันทรา จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในเมืองเซนต์หลุยส์ของสหรัฐ กล่าวว่า ในขณะที่เด็ก ๆ ทั่วโลกเริ่มกลับไปโรงเรียน การยกระดับการรักษาสุขอนามัยไม่ควรเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกตระหนักมากขึ้นว่า การรักษาความสะอาดมือมีความสำคัญต่อการหยุดยั้งการระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ

"นอกจากนี้ มาตรการรักษาสุขอนามัยขั้นพื้นฐานอย่างการล้างมือยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคทั่วไป ซึ่งรวมถึงโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร" นายแพทย์กันทราระบุ

ผลสำรวจเผยให้เห็นว่า มีเด็กนักเรียนเพียง 60% ที่ระบุว่า โรงเรียนมีสบู่ให้ใช้ตลอด ขณะที่เด็ก 1 ใน 10 คนระบุว่า ไม่เคยมีสบู่ใช้ที่โรงเรียนเลย

โรงเรียนเป็นสถานที่ที่มีโอกาสเกิดการแพร่เชื้อสูง และการใช้มาตรการรักษาสุขอนามัยแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยยกระดับการปกป้องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เอกสารทางวิชาการที่เพิ่งเผยแพร่ทางวารสาร American Journal of Infection Control ระบุว่า การยกระดับพฤติกรรมการรักษาสุขอนามัยในชีวิตประจำวันช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทั่วไปได้สูงถึง 50% และลดการใช้ยาปฏิชีวนะได้สูงสุด 30%

ศาสตราจารย์แซลลี บลูมฟิลด์ จากวิทยาลัยสุขภาพและเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยลอนดอนของอังกฤษ กล่าวว่า การรักษาสุขอนามัยแบบมุ่งเป้าหมายถึงการใส่ใจสุขอนามัยเฉพาะจุดเฉพาะเวลา หรือที่เรียกว่า "ช่วงเวลาเสี่ยง" นั่นคือเมื่อเชื้อโรคอันตรายมีแนวโน้มแพร่กระจายมากที่สุด สำหรับช่วงเวลาเสี่ยงในโรงเรียนประกอบด้วยช่วงเตรียมอาหาร ใช้ห้องน้ำ และสัมผัสพื้นผิวต่าง ๆ

นายแพทย์กันทรา เสริมว่า ควรมีการปลูกฝังพฤติกรรมการรักษาสุขอนามัยที่ดี เช่น การล้างมือ 20 วินาทีด้วยสบู่และน้ำ ให้แก่คนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดในอนาคต และปกป้องครอบครัวจากการติดเชื้อ