‘เมียนมา’ ระดมเจ้าหน้าที่ค้นหาผู้สูญหาย 'เหมืองหยกถล่ม' หลายร้อย
“เจ้าหน้าที่เมียนมา” ระดมกำลังลงพื้นที่ “เหมืองหยกถล่ม” ค้นหาผู้สูญหายหลายร้อยคน หลังพบผู้เสียชีวิตแล้ว 170 ราย และบาดเจ็บกว่า 50 ราย
ทีมกู้ภัยในพื้นที่กว่า 200 คนและเจ้าหน้าที่สากล 55 คน ยังคงค้นหาผู้สูญหายที่คาดว่าจะมีจำนวนอีกราว 200 คนและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เหมืองหยกถล่มในรัฐคะฉิ่น ประเทศเมียนมา เมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) ล่าสุดวันนี้ ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับรายงานยืนยันแล้วมีจำนวน 170 ศพ บาดเจ็บ 57 คน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในรัฐคะฉิ่นของเมียนมา ใกล้พรมแดนจีน เช้าวานนี้หลังจากที่ฝนตกอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน และทำให้เกิดคลื่นโคลนโถมทลายเหมืองหยกจนเหมืองถล่มลงมาและคนงานเหมืองจำนวนมากก็ถูกคลื่นดินโคลนซัดหายไป
สำนักงานดับเพลิงเมียนมา คาดว่าทั้งจำนวนผู้เสียหายและผู้เสียชีวิตจะยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากปฏิบัติการค้นหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ยังดำเนินอยู่ต่อไปเป็นวันที่สอง
ทั้งนี้ ในแต่ละปีคนงานในเมียนมาต้องสังเวยชีวิตขณะทำงานในเหมืองหยกที่มีมูลค่าสูงแต่มาตรฐานความปลอดภัยต่ำ เหมืองเหล่านี้มักใช้แรงงานต่างถิ่นค่าแรงถูกในการขุดหาหยกเพื่อขายให้กับจีนซึ่งมีความต้องการหยกสูง โดยเหตุเหมืองถล่มเคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่เหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าของเมียนมาไปทางเหนือราว 950 กิโลเมตร ครั้งที่รุนแรงเกิดขึ้นเมื่อปี 2558 พบผู้เสียชีวิต 116 ราย
ยอดขายหยกอย่างเป็นทางการในเมียนมามีมูลค่ากว่า 23.2 หมื่นล้านบาทในปี 2559-2560 อย่างไรก็ดีผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าตัวเลขจริงของอุตสาหกรรมเหมืองในเมียนมาซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักไปยังประเทศจีนจะมีมูลค่าสูงกว่าที่รัฐบาลรายงานมาก
อย่างไรก็ตาม ด้าน นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบข้อมูล เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าคนไทยได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว