‘ออสเตรเลีย’ ประกาศปิดพรมแดน 2 รัฐในรอบ 100 ปี คุมโควิดพุ่ง
“ออสเตรเลีย” ประกาศปิดพรมแดน 2 รัฐในรอบร้อยปี คุมโควิด19 พุ่งรายวันกว่า 120 ราย และล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
ทางการออสเตรเลีย ประกาศเตรียมปิดพรมแดนระหว่างรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ซึ่งทั้งสองรัฐทมีประชากรมากเป็นอันดับหนึ่งและสองของออสเตรเลีย หลังเกิดการแพร่ระบาดของโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อย่างรุนแรงในรัฐวิกตอเรีย
นายแดเนียล แอนดรูว์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย แถลงว่า คำสั่งปิดพรมแดนดังกล่าว จะมีผลตั้งแต่เวลา 23.59 น.วันที่ 7 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเป็นครั้งแรกในรอบร้อยปี และจะปิดอย่างไม่มีกำหนด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสสัน ได้หารือกับนางกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยตั้งสองได้ตัดสินใจร่วมกัน เพื่อปิดพรมแดนระหว่างรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ส่วนพรมแดนอีกด้านหนึ่งของรัฐวิกตอเรียที่ติดกับรัฐเซาท์ออสเตรเลียถูกปิดไปแล้วก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- เร่งสืบ! 'เมลเบิร์น' ระบาดใหม่อาจเกี่ยว 'เซ็กส์’ ในสถานกักตัวโควิด
- ‘ออสเตรเลีย’ เอาไม่อยู่! สั่งล็อกดาวน์ 'เมลเบิร์น' สกัดโควิด
อย่างไรก็ตาม การปิดพรมแดนระหว่างรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ได้เคยปิดพรมแดนระหว่างกันครั้งหลังสุดในปี 2462 เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปน ขณะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1
มีรายงานว่า รัฐวิกตอเรียอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย พรมแดนทางเหนือติดกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ พรมแดนทางตะวันตกติดกับรัฐเซาท์ออสเตรเลีย พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 127 ราย เมื่อคืนที่ผ่านมา มากที่สุดในวันเดียวนับตั้งแต่พบการระบาดในประเทศ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศในรอบกว่าสองสัปดาห์