รร.ภูเก็ตกระหน่ำโปรฯโควิด ลดราคาห้อง 50% ดึงคนไทย
“ภูเก็ต” เป็นจุดหมายปลายทางของโรงแรมและรีสอร์ทชั้นนำในเอเชีย ทั้งยังได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากว่า 10 ล้านคน
แต่พอเผชิญวิกฤติโควิด-19 ระบาด ตามคาดการณ์ของหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ส่งผลให้ภูเก็ตเสียรายได้ไปแล้วกว่า 1.2 แสนล้านบาท และจะสูญเสียรายได้ถึง 2.8 แสนล้านบาทภายในสิ้นปีหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น
แม้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มกลับมาช้ากว่าที่คาด แต่ภาพรวมสถานการณ์โรงแรมและรีสอร์ทใน จ.ภูเก็ต ปัจจุบันหลายแห่งทยอยกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง (Reopening) ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และรุกทำโปรโมชั่นเจาะลูกค้าคนไทยกันอย่างแข็งขัน หลังปิดให้บริการชั่วคราวมานานกว่า 3 เดือน
ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงแรมในภูเก็ตต่างกระหน่ำลดราคาห้องพักทุกระดับ 40-50% จากราคาขายปกติ เพื่อรองรับตลาดไทยเที่ยวไทยซึ่งส่วนใหญ่เดินทางในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดยาว นิยมจองห้องพักแบบกระชั้นชิด (Last Minute) และวอล์คอินในวันเข้าพักมากขึ้น หวังกู้อัตราเข้าพักให้ฟื้นตัวดีขึ้น
“ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการโรงแรมในภูเก็ตจะกำหนดให้ซื้อดีลโปรโมชั่นพิเศษดังกล่าวภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจเข้าพักรับการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ แล้วค่อยดูทิศทางตลาดก่อนพิจารณาปรับราคาห้องพักให้สอดคล้องกับดีมานด์ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวไทยสนใจจองห้องพักผ่านโรงแรมโดยตรง (Direct Booking) มากขึ้น ทั้งทางโทรศัพท์และโซเชียลมีเดีย เพื่อสอบถามโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนไทยโดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ทำให้ยอดจองผ่านช่องทางออนไลน์อื่นๆ ลดลง”
อย่างโรงแรม 5 ดาว เสนอขายกันที่ประมาณ 2 พันกว่าบาทต่อคืน บางแห่งให้ดีลราคาพิเศษที่ 1.7-1.8 พันบาทต่อคืนหากพักติดต่อกันหลายคืน โรงแรม 4 ดาวขายกันที่ราคาประมาณ 1-1.5 พันบาทต่อคืน
ส่วนห้องพักแบบวิลล่า ปัจจุบันลดราคาเหลือประมาณ 3-5 พันบาทต่อคืน ขณะที่ห้องพักแบบพูลวิลล่าซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นระดับลักชัวรี ขายต่ำกว่าหมื่นบาท เหลือประมาณ 7-9 พันบาท จากปกติขายกันที่ 1.3-1.4 หมื่นบาทต่อคืน เช่น เดอะ ชอร์ แอท กะตะธานี ราคาพูลวิลล่า 7,999 บาทต่อคืน และเดอะ นาคา ภูเก็ต ราคาวิลล่า 7,599 บาทต่อคืนสำหรับการเข้าพักตั้งแต่ 2 คืนขึ้นไป ส่วนราคาพูลวิลล่าอยู่ที่ 9,599 บาท
ศึกษิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่ภาพรวมการกลับมาเปิดให้บริการของโรงแรมในภูเก็ตเดือน ก.ค.นี้ ยังไม่ถึง 50% ของโรงแรมทั้งหมด เนื่องจากลูกค้านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของภูเก็ตเป็นชาวต่างชาติถึง 95% คนไทยมีเพียง 5% เท่านั้น คาดการณ์ว่าจะยังไม่มีลูกค้าต่างชาติยาวไปถึงเดือน ก.ย.นี้แน่นอน เพราะยังต้องรอความชัดเจนของการเปิดประเทศรองรับชาวต่างชาติอย่างจำกัด หรือ ทราเวลบับเบิล ซึ่งคาดว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปน่าจะเดินทางเข้าไทยได้จริงราวเดือน ม.ค.2564 เป็นต้นไป จากเดิมที่เคยคาดว่าจะกลับมาเที่ยวไทย ต.ค.นี้ หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ในหลายๆ ประเทศยังน่าเป็นห่วงและมีการแพร่ระบาดรอบ 2
“โรงแรมในภูเก็ตจึงต้องรุกทำตลาดคนไทยเพื่อฟื้นอัตราเข้าพัก และให้พนักงานได้กลับมาทำงานอีกครั้ง โดยหลายแห่งต่างสนใจเข้าร่วมการขายห้องพักผ่านมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ แพ็คเกจ เราเที่ยวด้วยกัน วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท โดยทางธนาคารกรุงไทยได้จัดสัมมนาผู้ประกอบการโรงแรมภูเก็ตเพื่อทำความเข้าใจระบบก่อนขาย”
ทั้งนี้ภาครัฐได้กำหนดเงื่อนไขให้เฉพาะโรงแรมหรือโฮมสเตย์ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเข้าร่วมได้ สมาคมฯจึงประเมินว่าโรงแรมถูกกฎหมายในภูเก็ตเกือบ 600 แห่งน่าจะเข้าร่วมโครงการกันเกือบหมด จากโรงแรมทั้งระบบในภูเก็ตที่มีรวมกันกว่า 1,400-1,500 แห่ง
ก่อนหน้านี้ แอนโทนี ลาร์ค ประธานสมาคมโรงแรมภูเก็ต กล่าวว่า ได้จับมือกับ “โคว โกลบอล” (QUO Global) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ระดับโลก ร่วมกับโรงแรมชั้นนำทั่วเกาะภูเก็ต 75 แห่ง ผุดแคมเปญ “คิดถึงภูเก็ต” (Imagine Phuket) กระตุ้นการท่องเที่ยวหลังโควิด ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้กลับมาเที่ยวภูเก็ต ผ่านการสื่อสารของทุกโรงแรมในทิศทางเดียวกันไปยังกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกทั้งวิดีโอ รูปภาพ และโลโก้
“โรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ ได้ทยอยเปิดให้บริการอีกครั้งแล้ว คาดว่าหลังจากที่ภาคเอกชนได้ร่วมมือการผลักดันแคมเปญ Imagine Phuket ออกไปทั่วโลก จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ถึง 20 ล้านคน ซึ่งคาดว่าภูเก็ตและประเทศไทยพร้อมที่จะเปิดการเดินทางระหว่างประเทศในช่วงเดือน ก.ย.นี้”