'ดาวโจนส์' ร่วง 361 จุด วิตกผู้ติดเชื้อโควิดพุ่ง

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 25,706.09 จุด ลดลง 361.19 จุด (1.39%) ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,152.05 จุด ลดลง 17.89 จุด (0.56%) ส่วนดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,547.75 จุด เพิ่มขึ้น 55.25 จุด (0.53%)

แนสแด็กทำสถิติปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ทุุบสถิติเดิมในวันพุธ (8 ก.ค.) แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยาน เช่น อเมซอน (Amazon) เพิ่มขึ้น 3% แตะระดับสูงสุด รวมถึงไมโครซอฟท์ (Microsoft) แอ๊ปเปิ้ล (Apple) และ เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ที่ปิดบวกเช่นกัน

ขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการต้องกลับมาปิดธุรกิจรอบใหม่ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ฉุดดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปิดลบ

แม้มีความกังวลต่อตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 รายวันของสหรัฐ โดยรัฐฟลอริดาและเทกซัส รายงานพบผู้เสียชีวิตวันเดียวสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในแต่ละรัฐ แต่นักลงทุนบางส่วนเริ่มเบนความสนใจไปยังฤดูกาลรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Refinitiv คาดการณ์ว่า บริษัทต่าง ๆ ในเอสแอนด์พี 500 จะมีรายได้รายไตรมาสลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลก ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19

กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานว่า ในสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก 1.314 ล้านราย ต่ำกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.39 ล้านราย

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นถึง 99,000 ราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 6.9 ล้านรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 มี.ค.

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 15 แม้ว่ารัฐต่าง ๆ ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และได้เปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่