'ไทย-สหรัฐ' กระชับยุทธศาสตร์กองทัพ

ในการเดินทางมาเยือนกองทัพบกไทยอย่างเป็นทางการ ของคณะผู้บัญชาการทหารบก

(ผบ.ทบ.)สหรัฐอเมริกา ระหว่าง 9-10 ก.ค.63 ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านการทหารมายาวนาน 65 ปี โดยวานนี้ (10 ก.ค.) เวลา 09.30 น.พล.อ.เจมส์ ซี แมคคอนวิลล์ (General James C. McConville) ผบ.ทบ.สหรัฐ พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ ทำเนียบรัฐบาล

ประเด็นสำคัญในการพูดคุย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอบคุณ ทบ.สหรัฐฯ ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ผบ.ทบ.ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก การประชุมสัมมนาการบริหารงานของ ทบ.กลุ่มประเทศภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก และการประชุมนายทหารประทวนอาวุโส ประจำปี 2020 รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้คนไทยในสหรัฐเดินทางกลับประเทศ สนับสนุนงบฯ เวชภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ ช่วยเหลือไทยในการป้องกันโควิด-19

ขณะที่ พล.อ.แมคคอนวิลล์ ได้ชื่นชมความเข้มแข็งกองกำลังพลของไทย และยินดีร่วมลงนามในเอกสารวิสัยทัศน์ร่วมทางยุทธศาสตร์ระหว่าง ทบ.ไทยกับสหรัฐฯ (Thailand and United States Army - to - Army Strategic Vision) เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพบก 2 ฝ่ายและร่วมกันพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของกำลังพลทั้ง 2 ประเทศ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ ในการพูดคุย ทั้ง 2 ฝ่ายได้ย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ซึ่งมีมายาวนานถึง 65 ปี โดยเฉพาะในระดับกองทัพ ที่มีความร่วมมือในโครงการต่าง โดยยืนยันจะดำรงบทบาทเพื่อสนับสนุน เสริมสร้างความมั่นคงและผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มีเสถียรภาพ เสรี เปิดกว้างและยั่งยืน

ในเวลาต่อมา ผบ.ทบ.สหรัฐ และคณะ เดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของ ทบ.ต้อนรับ และ พล.อ.แมคคอนวิลล์ ได้ร่วมพิธีรับการเคารพจากแถวทหารต้อนรับ 

จากนั้น พล.อ.แมกกอนวิลล์ และ พล.อ.อภิรัชต์ ได้ลงนามในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ทางยุทธศาสตร์ ร่วมกัน โดยมีเนื้อหา แลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี โดยเป็นการสานต่อความร่วมมือภายหลังการลงนามระหว่างกระทรวงกลาโหมไทยและสหรัฐฯ ที่ได้ลงนามในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่างไทย - สหรัฐฯ ปี 2563 ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศ (Joint Vision Statement 2020 for the Thai - US. Defense Alliance) เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2562 อันเป็นการยกระดับความร่วมมือทางทหารระหว่างกันให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

นอกจากนี้ พล.อ.แมคคอนวิลล์ และ พล.อ.อภิรัชต์ ยังได้หารือกันถึงการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน การฝึกร่วมและหลักนิยมต่างๆ

ทั้งนี้ พล.อ.แมคคอนวิลล์ กล่าวตอนหนึ่งว่า “พันธไมตรีระหว่างเรา มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเกิดผลเป็นอย่างยิ่ง และในเวลานี้เรากำลังรับมือกับความท้าทายในศตวรรษที่ 21 ไปด้วยกัน ประเทศของเราทั้งสอง จัดการฝึกและกิจกรรมทางการทหารร่วมกันหลายครั้งในแต่ละปี และเรากำลังดำเนินการร่วมกับรัฐบาลไทยเพื่อให้มั่นใจว่า ทุกการฝึกของเราจะเป็นไปด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดใหญ่ครั้งนี้”

นอกจากนี้ พล.อ.แมคคอนวิลล์ ยังได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (AFRIMS) โดยศูนย์วิจัยโรคติดเชื้อร่วม ระหว่างสหรัฐฯและไทยแห่งนี้ เป็นแนวหน้าด้านการศึกษาโรคระบาดมาหลายทศวรรษ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันและชาวไทยกำลังทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะโรคอันตรายลำดับต้น ๆ ของโลก เช่น มาลาเรีย ไข้เลือดออก โควิด-19

ขณะที่การเยือนไทยของ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะ ได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของ ศบค.อย่างเคร่งครัด