ทบ.แจงฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ยังเปิดช่องฟ้องแพ่ง-อาญา
"โฆษกกองทัพบก" แจงปมเอกสารให้เซ็นต์ยินยอมเข้ารับการศึกษาหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหาร เพื่อให้ผู้ปกครองย้ำคุณสมบัติของผู้สมัครว่าพร้อมจริง สมัครใจ หากให้ข้อมูลเท็จอาจเกิดความเสียหาย แต่ไม่จำกัดสิทธิ์การฟ้องร้องทางแพ่ง-อาญา
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.63 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้เเจงกรณีสื่อโซเชียลลงภาพเอกสาร-ข้อความ เรื่องการเข้ารายงานตัวเข้ารับการศึกษาในหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) ในเชิงกังวล ที่ผู้ปกครองจะต้องเซ็นต์ให้ความยินยอม โดยเฉพาะข้อ 3 ที่ระบุว่า “หากมีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นในระหว่างการฝึกวิชาทหาร ผู้ปกครองไม่ติดใจจะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่ และกองทัพบก” โดยบอกว่า การเข้าเรียนวิชาทหารตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร พ.ศ. 2503 ได้กำหนดคุณสมบัติไว้ว่า ผู้ประสงค์จะเข้าศึกษา ต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป และสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3 หรือเทียบเท่าขึ้นไป) ที่สำคัญต้องมีร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรค มีสภาพร่างกาย หรือจิตใจที่ไม่ขัดต่อการรับราชการทหาร
และในปี พ.ศ. 2525 กองทัพบกได้กำหนดระเบียบของการรายงานตัวเข้าศึกษาโดยให้ผู้ปกครองเซ็นต์ยินยอมให้รายงานตัวเข้าฝึกวิชาทหาร , ผู้ปกครองต้องยืนยันว่า นศท. ผู้นี้มีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ สามารถเข้าฝึกวิชาทหารได้ตามหลักสูตรที่กำหนด , หากมีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นในระหว่างการฝึกวิชาทหาร ผู้ปกครองไม่ติดใจจะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่ และกองทัพบก ซึ่งตามที่ระบุนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องในทางอาญา
โฆษกกองทัพบก ยังบอกด้วยว่า ทางผู้ปกครองต้องมั่นใจในคุณสมบัติของผู้เข้ารับการศึกษาว่ามีความพร้อมจริง เพราะกระบวนเข้ารับการศึกษานี้ดำเนินการในลักษณะด้วยความสมัครใจ หากผู้ปกครองให้ข้อมูลไม่ตรงข้อเท็จจริง อาจทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะกับบุคคลนั้น ทั้งนี้เพื่อความเสมอภาค และความคุ้มครองในด้านกฎหมาย ทั้งต่อตัวนักศึกษาฯ เจ้าหน้าที่ และกองทัพบก เอกสารดังกล่าวไม่ได้จำกัดสิทธิ์การฟ้องร้องตามกฎหมายทั้งในทางแพ่ง และอาญา หากมีความเสียหายเกิดขึ้น ที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันกว่า 50 ปีแล้ว ยังไม่เคยได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเสียหายใดๆ
อย่างไรก็ตาม ในการฝึกวิชาทหารของนักศึกษาวิชาทหารทางผู้บังคับบัญชา ได้ให้ความสำคัญอย่างมากมาตลอดในเรื่องของความปลอดภัย