เจาะโมเดล“บีดีเอ็มเอส” ผ่าวิกฤติลูกค้าต่างชาติวูบ

แม้แต่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ บีดีเอ็มเอส ของนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กลุ่มโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในไทย และอันดับต้นๆในเอเชีย ซึ่งไม่พ้นได้รับผลกระทบจากโควิด

ประเมินจากผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 พบว่า บีดีเอ็มเอส มีกำไรสุทธิ 2,568 ล้านบาท ลดลง 70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 8,438 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่หายไป โดยลูกค้าหลักจากตะวันออกกลาง ลดลง 40% จีนลดลง 32% กลุ่มอาเซียน ลดลง 9% ขณะที่ กลุ่มผู้ป่วยชาวไทยทรงตัว

ขณะที่ การ “พลิกโมเดลธุรกิจ” ในช่วงที่ผ่านมา เห็นได้ชัดถึงการหันมาเจาะตลาดลูกค้าคนไทย และลูกค้าต่างชาติ ขยายฐานลูกค้าหลากเซ็คเมนต์ ผ่านความร่วมมือกับบริษัทประกันสุขภาพ!

ทั้งนี้ดีลใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา คือการลงนามสัญญาความร่วมมือกับ “ผิงอัน เฮลธ์” เป็นบริษัทประกันสุขภาพอันดับหนึ่งของประเทศจีน ในเครือผิงอัน ผู้ดำเนินธุรกิจการเงินและประกันติดอันดับ 500 บริษัทใหญ่ที่สุดในโลกโดยฟอร์จูน

โดยมีวัตถุประสงค์ให้ลูกค้าประกันสุขภาพของผิงอัน เดินทางมาใช้บริการดูแลสุขภาพในโรงพยาบาลกลุ่มบีดีเอ็มเอสในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมการตรวจร่างกายพื้นฐาน โปรแกรมการตรวจและรักษาโรคเฉพาะทางทั้งระดับทั่วไปและที่มีความซับซ้อน โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โปรแกรมตรวจคัดกรองและการรักษาโรคมะเร็ง การรักษาด้านศัลยกรรมกระดูก การผ่าตัดเปลี่ยนสะโพกและการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า การรักษาโรคหัวใจและระบบประสาท ฯลฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศอีกครั้ง

“เราเชื่อว่า โครงการความร่วมมือกับผิงอัน เฮลธ์ ส่งผู้ประกันสุขภาพจากจีนมารักษาในประเทศไทยในปีแรกประมาณ 1,000-4,000 คน จะทำรายได้ 1,000-2,000 ล้านบาท จะส่งผลให้กลุ่มลูกค้าชาวจีนขึ้นมาเป็นผู้ใช้บริการสูงสุด 1 ใน 3 ของกลุ่มโรงพยาบาลในเครือบีดีเอ็มเอสจากเดิมจะเป็นกลุ่มตะวันออกกลาง” นฤมล น้อยอ่ำ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวไว้เช่นนั้น

นอกเหนือจากการปรับโมเดลในการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ โดยหันมาจับกลุ่มลูกค้าจีน ที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว และเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อให้เข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพในเครือแล้ว

ล่าสุดวานนี้ (16 ก.ค.) บีดีเอ็มเอส แถลงความร่วมมือกับวิริยะประกันภัย ผ่านโครงการ Viriyah Healthcare by BDMS ‘คุ้มครอง คุ้มค่า ราคาเพื่อคนไทย’ ประกันแบบเหมาจ่าย เจาะลูกค้าคนไทย

โครงการนี้จะชดเชยความต้องการจากลูกค้าจากต่างประเทศได้หรือไม่ นายแพทย์ปราเสริฐ กล่าวว่า “ยังไม่รู้ แต่พยายามทำให้ราคาถูกที่สุดเพื่อให้คนซื้อได้ประโยชน์ เพราะเวลาที่เจ็บป่วยครั้งหนึ่งใช้เงินอย่างน้อย 10,000-20,000 บาท จ่ายแค่ 500 บาทต่อเดือน สามารถเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลในเครือบีดีเอ็มเอสได้แล้ว ถือเป็นการเปิดโอกาสให้คนมีรายได้น้อยเข้ามาใช้บริการได้ง่ายขึ้น ซึ่งจากข้อมูลพบว่า คนที่ซื้อประกันสุขภาพจะเข้ามาใช้บริการประมาณ 10%”

สำหรับประกันสุขภาพระบบเหมาจ่าย มีด้วยกัน 3 แผน แผนแรกเริ่มต้นจากเบี้ย 17 บาทต่อวัน หรือ ประมาณ 510 บาทต่อเดือน จะได้รับความคุ่มครอง 100,000 บาทต่อปี แผนที่สองเบี้ย24 บาทต่อวันจะได้รับความคุ้มครอง 300,000 บาทต่อปี และแผนสามเบี้ย 33 บาท ต่อวันจะได้รับความคุ้มครอง 700,000 บาทต่อปี

รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีดีเอ็มเอส เสริมว่า การนำเสนอประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายในราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย ถือว่าตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ของคนไทยในยุคโควิด ในอนาคตอาจจะมีการทำประกันเฉพาะโรค เช่น โรคมะเร็ง โรคกระดูก โรคหัวใจ ฯลฯ ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่คนไทยให้ความสนใจ

ที่ผ่านมาสัดส่วนคนไทยทำประกันสุขภาพแค่ 7% เท่านั้น ยังไม่ถึง 10% ของจำนวนประชากร ต่างจากประเทศที่พัฒนาแล้ว คนไข้ที่ประเทศเหล่านั้นจะพึ่งพาระบบประกันสุขภาพถึง 20-30% หากสามารถกระตุ้นให้คนทำประกันสุขภาพมากขึ้นได้จะช่วยลดภาระภาครัฐ และคนไทยจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นเพราะสามารถเข้าถึงโรงพยาบาลเอกชนได้

“ความร่วมมือนี้ ส่วนหนึ่งอาจถือเป็นการลดความเสี่ยงในการบริหารจัดการธุรกิจ ขณะเดียวกันยังเป็นการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มคนชั้นกลาง (Middle Class) ให้เข้ามารับบริการโรงพยาบาลในเครือบีดีเอ็มเอส มากขึ้น จากเดิมจะเป็นกลุ่มระดับกลาง-บน"

โดยประกันในลักษณะดังกล่าวจะเป็นในลักษณะของประกันเสริม ที่เข้ามาเพิ่มเติมจากประกันสุขภาพเดิมที่มีอยู่ของมนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ต้องการทำประกันสุขภาพเพิ่มเติม ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ท่ามกลางภาวะที่รายได้ลดลง เพราะเศรษฐกิจและธุรกิจได้รับผลกระทบจากโควิด

ทั้งนี้ในปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ 100% ของบีดีเอ็มเอส มีลูกค้าประกันประมาณ 31% รวมทั้งประกันภัยและประกันต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดิมเคยมีสัดส่วนประมาณ 20% คาดว่า จากการร่วมมือกับบริษัทประกันต่างๆรวมถึงวิริยะประกันภัย ภายใน3ปีจากนี้จะสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้ลูกค้าประกันเพิ่มขึ้น 40%