'ดาวโจนส์' ปิดร่วง 135 จุด หลังว่างงานสหรัฐพุ่ง
ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปิดแดนลบในวันพฤหัสบดี (16 ก.ค.) แรงฉุดหุ้นยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี และตัวเลขผู้รับสวัสดิการคนว่างงานสหรัฐที่สูงขึ้น ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 26,734.71 จุด ลดลง 135.39 จุด (0.50%) ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,215.57 จุด ลดลง 10.99 จุด (0.34%) ส่วนดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,473.83 จุด ลดลง 76.66 จุด (0.73%)
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงครั้งแรกในรอบ 5 วัน หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.3 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.25 ล้านราย ขณะที่ยอดชาวอเมริกันที่ขอรับสิทธิประโยชน์คนว่างงานเพิ่มเป็น 32 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐของสหรัฐ และทำให้รัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐอื่น ๆ ต้องล็อคดาวน์อีกรอบ ซึ่งยิ่งสร้างความกังวลว่า เศรษฐกิจอาจเสียหายยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 7.5% ในเดือนมิถุนายน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.0%
อีกหนึ่งแรงฉุดคือ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ปิดลดลง 1.2% หนึ่งในนั้นรวมถึงหุ้น "ทวิตเตอร์" ที่ปิดร่วง 1.1% หลังเผชิญเหตุการณ์แฮกบัญชีบุคคลและบริษัทมีชื่อเสียงในสหรัฐและทวีตหลอกผู้ติดตามให้โอนบิทคอยน์ช่วงบ่ายวันพุธ (16 ก.ค.)