เกาะติดงบฟื้นฟู 'กองทุนหมู่บ้าน' ชง 4 หมื่นล้าน จ้างงานเก็บข้อมูลทั่วประเทศ

กองทุนหมู่บ้าน ชงของบ 4 หมื่นล้านบาท จ้างงานเดือนละ 10,000 บาท เก็บข้อมูล 79,604 หมู่บ้าน

สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เป็นอีกหน่วยงานที่เสนอขอใช้วงเงินจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ในส่วนของเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ได้เสนอโครงการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 โดยเป็นการดำเนินงานผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ 79,604 แห่ง วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท

นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้เสนอโครงการดังกล่าวให้กับคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการและเงินกู้ (คกง.) ซึ่งมีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นหน่วยงานหลักในการพิจารณาโครงการโดยมีกำหนดการเข้าไปชี้แจงกับสภาพัฒน์อีกครั้งในวันที่ 26 ก.ค.นี้่

โครงการที่เสนอจะของบประมาณให้กับกองทุนหมู่บ้าน 79,604 กองทุนทั่วประเทศ แห่งละ 500,000 บาท ประกอบด้วย

การจ้างงานอาสาสมัครกองทุนหมู่บ้าน กองทุนละ 3 คน โดยว่าจ้างในอัตราเงินเดือน 10,000 บาทต่อคน เป็นระยะเวลาสัญญา 3 เดือน เพื่อทำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลหมู่บ้านภาพรวมของหมู่บ้านนั้น เช่น จำนวนประชากร จำนวนครัวเรือน การประกอบอาชีพ สถานที่ท่องเที่ยในชุมชน วัด โรงพยาบาล ที่พัก โฮมสเตย์

รวมถึงการสำรวจภาวะการเข้าถึงการสื่อสารของคนในหมู่บ้านเป็นอย่างไร เพื่อต้องการให้ได้ข้อมูลมากที่สุดโดยเป็นการสำรวจอย่างจริงจัง และให้มีการปรับปรุงข้อมูลหมู่บ้านทุกปีเมื่อมีการส่งรายงานประจำปีเข้ามายังสำนักงาน

159516500082

หลังจากหารือกับ สศช.เบื้องต้นแล้วยังให้ช่วยในเรื่องการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน โดยจะต้องดูว่าหมู่บ้านมีปัญหาอะไร เช่น มีปัญหาเรื่องการปิดงบการเงินก็ให้เข้าไปช่วยเหลือ รวมทั้งทำแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนที่จะทำต่อในระยะต่อไปด้วยหลังจากที่ทำข้อมูลเสร็จ

ขั้นตอนต่อมาหลังจากที่ได้ข้อมูลแล้วให้กองทุนหมู่บ้านทำแผนพัฒนาศักยภาพขึ้นมาโดยให้เลือกจาก 3 แผน ได้แก่

1.แผนการท่องเที่ยวชุมชน โดยกองทุนหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยวระหว่างกัน

2.การพัฒนาสินค้าและบริการของกองทุนหมู่บ้าน เพื่อทำการซื้อ-ขายระหว่างกัน

3.แผนพัฒนาอาชีพใหม่ เพื่อให้บริการระหว่างกองทุนหมู่บ้าน

ส่วนนี้จะใช้งบประมาณกองทุนละ 300,000 บาท แบ่งเป็นการพัฒนาแผน 250,000 บาท และอีก 50,000 บาท เป็นงบประมาณศึกษาดูงานข้ามกองทุนเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเดินทางระหว่างสมาชิกกองทุนภายในประเทศ

สำหรับในส่วนที่เหลืออีก 80,000 บาท แบ่ง 2 ส่วนใน 40,000 บาทแรกจะนำไปใช้ในการพัฒนาการค้าขายสินค้าออนไลน์ เช่นการพัฒนาเว็บไซต์สำหรับการค้าขายออนไลน์ของหมู่บ้าน โดยใช้ในส่วนของ 3 คนที่จ้างงานไว้เป็นแอดมินเว็บไซต์และระบบค้าออนไลน์ ส่วนอีก 40,000 บาทสุดท้ายกันไว้สำหรับการส่งสินค้าและโลจิสติกส์ของหมู่บ้าน

ทั้งนี้ สศช.ได้อนุมัติวงเงินไว้ให้หมู่บ้านละประมาณ 200,000 บาท หรือวงเงินรวม 16,000 ล้านบาท โดยได้อนุมัติเบื้องต้นในเรื่องการทำแผนพัฒนาชุมชน ส่วนแผนการขายสินค้าออนไลน์และการขนส่งกองทุนหมู่บ้านมีกำหนดการที่จะต้องไปชี้แจงต่อคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้อีกครั้งในวันที่ 26 ก.ค.นี้

“โครงการที่เขียนไปเสนอให้อยู่บนแนวคิการพัฒนากองทุนหมู่บ้าน ให้เกิดการสร้างตลาดฐานราก ให้สมาชิกอุดหนุนสินค้ากัน โดยเฉพาะสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในรูปแบบอาหารสดมากกว่าการแปรรูปอาหารซึ่งจำหน่ายได้ง่ายกว่าถ้ามีระบบโลจิสติกส์ที่ดี ซึ่งเป็นเหมือนกับระบบร้านสะดวกซื้อที่ขายสินค้าสดได้มากกว่า” นายรักพงษ์ กล่าว

รวมทั้งหากทำได้ตามแผนที่วางไว้เชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศจะพัฒนาได้เลย เพราะนอกจากการเพิ่มการจ้างงาน ได้มีข้อมูลหมู่บ้าน และได้มีผู้ประกอบการซื้อขายสินค้าระหว่างกัน และพัฒนาออนไลน์ รวมทั้งมีแหล่งรายได้รองรับในอนาคต