แพทย์ชี้ 'จารุชาติ มาดทอง' เสียชีวิตสอดคล้องกับอุบัติเหตุ
ผลชันสูตรพลิกศพ "จารุชาติ มาดทอง" พยานปากเอกคดี "บอส อยู่วิทยา" รอบ 2 แพทย์ชี้ร่องรอยบาดแผลสอดคล้องกับอุบัติเหตุ ด้าน "ตร.เชียงใหม่" รอสรุปจากพิสูจน์หลักฐาน และเรื่องอื่นๆ ก่อนจะปิดคดี
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 ได้เดินทางเข้าประชุมร่วมกับศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ รศ.นพ.ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผอ.โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ที่ห้องประชุมบุญสม มาร์ติน อาคารบุญสม มาร์ติน รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อสรุปผลการชันสูตรศพรอบที่ 2 ของนายจารุชาติ มาดทอง ที่เป็นพยานคนสำคัญในคดีของนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ที่เสียชีวิตเมื่อกลางดึกของวันที่ 29 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา และได้มีการนัดแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น
โดยบรรยากาศได้มีผู้สื่อข่าวจากทุกสำนักข่าว มารอติดตามผลชันสูตรการตายของนายจารุชาติ มาดทอง ในรอบที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้าประชาชนได้ตั้งข้อสงสัยถึงการเสียชีวิตของนายจารุชาติ ว่าเป็นการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติหรือไม่ การประชุมใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและคณะแพทย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวในเวลา 16.30 น.
โดย ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดเผยว่า สรุปวันที่ทีมแพทย์รับตัวนายจารุชาติ มาก็พบว่าโคมา ไม่มีชีพจรแล้ว ทีมแพย์ทำการปั๊มหัวใจนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนประกาศการเสียชีวิต ซึ่งสันนิษฐานได้ว่านายจารุชาติ น่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
รศ.พญ.กานดา เมฆใจดี หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ เปิดเผยว่าหลังรับศพทางเราก็ทำการชันสูตรศพในเวลา 10.00 น.ของวันที่ 31 ก.ค.63 และการชันสูตรศพรอบสอง ตามที่ได้รับคำสั่งมาให้ตรวจช้ำรอบสอง ซึ่งผลทั้งสองครั้งเหมือนกัน สรุปการเสียชีวิตของผู้ตายมีการถลอกด้านซ็ายของศีรษะ บ่าซ้าย เลือดออกที่ฐานก้านสมองเลือดออกที่บริเวณก้านสมอง ซึ่งนี้เป็นจุดสำคัญที่ทำให้เสียชีวิต
นอกจากนั้นยังมีกระดูกซี่โครงซ้ายหัก 1 ซี่ และซี่โครงด้านหน้าร้าวหลังเสียชีวิตน่าจะเกิดจากการปั๊มหัวใจ มีเลือดออกที่ช่องท้อง 1,500 ซีซี ม้ามแตก ไม่มีบาดแผลอื่นใด หรือจากการสแกนร่างกายทั้งหมดก็ไม่พบร่องรอยของโลหะหรือหัวกระสุน ไม่มีบาดแผลอื่นใด อุบัติเหตุแบบนี้สามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตแบบนี้ได้ เพราะตามทฤษฏีผู้ตายมีแอลกอฮอลในเลือดกว่า 218 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ทำให้ร่างกายขาดการควบคุม พอเกิดการกระแทกจากอุบัติเหตุ ปฏิกิริยาของกล้ามเนื้อเสียไป เพราะฤทธิ์แอลกอฮอ ทำให้เกิดการสะบัด ระหว่างล้ม ทำให้เกิดการปริแตกของเส้นเลือดในก้านสมอง ทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งเราได้ทำการผ่าตรวจพิสูจน์ทุกจุดหมดแล้วไม่มีอะไรน่าสงสัย
ส่วนการตรวจสารพิษอื่นๆในร่างกายก็กำลังรอผลแลปที่จะออกในอีกไม่กี่วันก็จะมีการชี้แจ้งอีกครั้งหนึ่ง สำหรับศพของนายจารุชาติ ทางโรงพยาลบาลก็จะเก็บรักษาไว้เพื่อรอญาติส่งหนังสื่อมาว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรกับศพ
พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าในคดีนี้จากพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด รวมถึงพยานบุคคล เบื้องต้นตอนนี้สรุปได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะเรามีการตรวจสอบกล้องทุกจุด ทุกเส้นทางที่ทั้งสองขับรถ โดยเริ่มต้นทั้งสองไปนั่งดื่มสุราที่ร้านขายสุรา ย่านพืชสวนโลก ถนนคันคลองชลประทาน ในเวลาราวๆ 22.00 ของคืนวันที่ 29 ก.ค. ทั้งสองไม่ได้มาพร้อมกันแต่นายสมชาย ตาวิโน มาก่อน และนั่งข้างใน นายจารุชาติ มาที่หลังนั่งหน้าร้าน และนั่งคนละโต๊ะ พอร้านปิดคู่กรณีก็หยิบเหล้าออกจากร้าน และมาเจอนายจารุชาติ ผู้ตายนั่งคนเดี่ยวหน้าร้าน นายสมชาย จึงชวนนายจารุชาติ ที่พึ่งรู้จักกันคุย ตามประสาคนเมา ซึ่งตรงนี้มีพยานกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลภายในร้าน
จากนั้นเมื่อคุยกันถูกคอ ก็มีการชวนกันไปต่อร้านสาว แถวสันติธรรม ซึ่งตรงนี้พยานที่อยู่ที่ร้านอาหารเราก็ทำการสอบสวนไว้หมดแล้ว หลังจากนั้นทั้งสองก็ขับขี่ และทักทายกันตลอดเส้นทาง จากพืชสวนโลก มาที่สันติธรรม ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร จนมาประสพอุบัติเหตุนายจารุชาติ ขับจะแซง และเฉียวใส่รถนายสมชาย จนเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตดังกล่าวขึ้น ซึ่งจากวงปิดตลอดส้นทางที่ทั้งสองขับรถตามกันไม่มีคนอื่นใดขับรถนำหน้า หรือตามหลัง จนหลังเกิดเหตุก็มีกู้ภัยและพลเมืองดีมาช่วย ซึ่งเราก็สอบปากคำทุกคนไว้หมดแล้ว ซึ่งการสรุปเบื้องต้นคดีนี้น่าจะเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งตอนนี้ก็รอผลจากการตรวจทุกอย่างให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อจะได้ชี้แจ้งทุกประเด็นให้ตอบข้อสงสัยของสังคมให้ได้ทุกข้อ โดยเฉพาะเรื่องที่ผู้ตายทำงานให้อดีตสว. และมีสปอร์เซ็นเป็นเครือกระทิงแดง ตรงนี้เราก็กำลังตรวจเช็คให้ลึกๆเพื่อให้ได้ข้อกระจ่างทุกข้อสงสัย