ทำลายหลักฐาน 'บ่อนพระราม3' โชว์ข้อมูลคาสภา-ตร.รับกล้องหาย

ทำลายหลักฐาน 'บ่อนพระราม3' โชว์ข้อมูลคาสภา-ตร.รับกล้องหาย

งัดหลักฐานโชว์บ่อนพระราม 3 หลังเกิดเหตุยิง 4 ศพ เร่งทำลายหลักฐาน ปูดข้อมูลภายในแบ่งโซนเล่นพนัน ลูกค้าวีไอพี-สนามทราย นักพนันหลักร้อยคน คาดจ่ายส่วยหลายทอด “ผบช.น.” ชี้ในอาคารถูกถอดกล้องวงจรปิด เปิดประวัติ “เฮียตี้” อดีตลูกน้องเจ้าพ่อบ่อนเมืองไทย

จากกรณีเหตุยิงกันภายในอาคารพาณิชย์​ ย่านพระราม 3 ซึ่งดัดแปลงเปิดเป็นบ่อนการพนัน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย วานนี้ (5 ส.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง การเกิดเหตุยิงกันในบ่อนพระราม 3 กลาง กทม. ตอนหนึ่งว่า บ่อนดังกล่าว ตนเคยพูดในสภาไปแล้ว เมื่อเดือนตุลาคม 2562 แต่นายกฯ และตำรวจปฏิเสธว่าไม่มี

กระทั่งมาเกิดเหตุล่าสุด ยิงกันตาย 4 คน ในบ่อน ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงไม่เกรงกลัวกฎหมาย แต่กลับพบการขนย้ายของออกจากพื้นที่ โดยไม่สนใจร่างผู้เสียชีวิต ขณะที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ไม่เข้าไปที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน ทั้งที่ใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาที ทั้งที่ สน.ทุ่งมหาเมฆอยู่ห่างจากบ่อนแค่ 2.5 กิโลเมตร เดินทางไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง โดยเหตุเกิด 22.00 น.แต่ไปถึงจุดเกิดเหตุ 24.00 น. แสดงว่ามีการรับส่วยเป็นทอดๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะใน บก.น.5

“ภายในบ่อนแบ่งออกมาเป็น 2 โซน มีโซนวีไอพี โซนสนามทราย มีโต๊ะบาคาร่า ถือว่าเป็นบ่อนขนาดใหญ่ใจกลางกทม. โดยปล่อยให้มีคนเข้าบ่อนเป็นร้อยคน มีคนต่างประเทศเข้าไปเล่นด้วย ถามว่าเหตุใดนายกฯจึงละเลยปล่อยให้มีการตั้งบ่อนเกิดขึ้น ทั้งที่เป็นผู้ควบคุมดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบทั้งระบบเหมือนคดีบอส กระทิงแดงหรือไม่ และนายกฯจะรับผิดชอบกรณีที่เกิดขึ้นอย่างไร จะจัดการกับนายตำรวจที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง” นายยุทธพงศ์กล่าว

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงแทนนายกฯว่า นายกฯไม่ได้ปล่อยปละละเลย และสั่งการให้ สตช.เข้มงวด ควบคุมไม่ให้มีบ่อนใน กทม.และปริมณฑล หากมีตำรวจเกี่ยวข้องต้องถูกลงโทษเด็ดขาด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด นายกฯให้ ตร.ไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว สาเหตุเบื้องต้นพบเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผู้ก่อเหตุกับตำรวจที่เสียชีวิต คดีนี้ สน.ทุ่งมหาเมฆได้รับแจ้งเหตุเวลา 22.00 น. เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ 22.45 น.

ขณะนี้ สอบพยานไปแล้ว 11 ปาก โดยนายกฯเร่งรัดให้ตำรวจนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และให้ สตช.เร่งสอบสวนข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แล้วรายงานผลให้นายกฯ รับทราบว่า มีเจ้าหน้าที่ละเลยหรือบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ทั้งนี้การตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากทราบผลแล้วและออกมาเป็นอย่างไร เชื่อว่า นายกฯจะกำหนดแนวทางแก้ปัญหาต่อไป

ผบช.น.ชี้ถูกถอดวงจรปิดออก

ขณะที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน กรณีเหตุยิงในบ่อนพระราม 3 ว่า ที่มีข้อสงสัยเรื่องกล้องวงจรปิด ยืนยันว่าในคืนวันเกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงไม่พบกล้องวงจรปิดในสถานที่ดังกล่าว

“ส่วนตัวเชื่อว่า ต้องมีคนถอดออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง ซึ่งในการสืบสวนสอบสวนจะต้องเรียกเจ้าของอาคารมาให้ปากคำ และสืบหาบุคคลที่ปรากฏในภาพถ่าย ขณะกำลังเคลื่อนย้ายสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในอาคาร รวมถึงการตามหากลุ่มผู้เล่นพนัน เพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย" ผบช.น.กล่าว

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจนอกเครื่องแบบเป็นผู้ลงมือยิงนายถาวร สีสด ผู้ก่อเหตุ ตนยืนยันว่านายถาวร เสียชีวิตก่อนตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ และชุดแรกที่เข้าถึงคือสายตรวจท้องที่ของ สน.ทุ่งมหาเมฆ หลังได้รับแจ้งเหตุ 30 นาที ส่วนผู้ลงมือยิงที่แท้จริงนั้น ยังอยู่ระหว่างสืบสวนยืนยันตัวบุคคล

พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. กล่าวว่า จะพิจารณาเรียกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ที่ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเกี่ยวบ่อนการพนัน มาให้การกับคณะทำงาน รวมถึงนำภาพต่างๆ ที่มีการนำไปเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ มาประกอบการสอบสวนด้วย

“เฮียตี้”อดีตลูกน้องเจ้าพ่อบ่อน

มีรายงานข่าวว่า สำหรับบ่อนการพนันวีไอพี ย่านพระราม  3 ที่มีเจ้าของ คือ “เฮียตี้” แท้จริงแล้ว เจ้าของสถานที่ คือ “เฮีย จ” โดยสถานที่แห่งนี้เปิดเป็นบ่อนมานานกว่า 8 - 9 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้มี “เจ้ใหญ่” รายหนึ่ง เคยมาเช่าเปิดบ่อนเช่นกัน แต่เปิดได้เพียง 6 - 7 เดือน ก็ถูกจับกุมทำให้ต้องปิดตัวลง

ต่อมามีชาวต่างชาติ เข้ามาเช่าทำบ่อนต่อ แต่ก็ถูกสั่งปิดหลังเปิดได้ 3 - 4 เดือน จากนั้นปิดยาวมากว่า 5 ปี และกลับมาลักลอบเปิดใหม่อีกครั้ง กลางปี 2562 โดยมีเฮียตี้ดำเนินการต่อ กระทั่งพิษโควิด-19 ระบาด จึงปิดตัวลง และเพิ่งกลับมาเปิดใหม่ได้ไม่นาน จนเกิดเรื่องยิงกันตาย

“เฮียตี้” ได้บริหารงานบ่อนในรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้ลงทุนเองเพียงคนเดียว แต่จะแบ่งโต๊ะการพนันให้เจ้ามือรายอื่น ๆ เข้ามาเช่า ซึ่งภายในบ่อนแห่งนี้มีทั้งหมด 14 โต๊ะ โดยเฮียตี้คุมเอง 4 โต๊ะ ส่วนที่เหลือปล่อยเช่า โดยคิดเป็นโต๊ะ ๆ ละ 3 แสนบาท ต่อ 8 ชั่วโมง ส่วนห้องวีไอพีจะมีราคาสูงกว่าปกติ ส่วนใหญ่จะเปิดให้เล่นตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าทำรายได้ 5-7 ล้านบาทต่อวัน

สำหรับประวัติ “เฮียตี้” เคยเป็นลูกน้องเก่าของอดีตเจ้าพ่อวงการบ่อนการพนันใน กทม.ก่อนจะขยับขึ้นมาทำบ่อนเองชื่อว่า “ซาหลักเก้า” หรือ 369 ตั้งอยู่ย่านเยาวราช แต่เปิดได้ไม่นานก็ปิดตัวลง ในช่วงนั้น “เฮียตี้” เริ่มสนิทสนมกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน รวมไปถึงญาติของนักการเมืองระดับชาติ จากนั้นจึงมาเปิดบ่อนที่พระราม 3 โดยอดีตเจ้าพ่อวงการบ่อนเมืองไทย มีหุ้นส่วนเล็กน้อย 

ในส่วนกระแสข่าวที่มีบิ๊กตำรวจอักษรย่อ “ซ” เกี่ยวข้อง ข้อมูลพบว่านายตำรวจรายนี้ มีความเกี่ยวข้องกับวงการพนันโดยเฉพาะพนันออนไลน์ ที่กำลังเป็นที่นิยม และหลังเกิดเหตุยิงกันในบ่อนครั้งนี้ทำให้วงการบ่อนเมืองไทยได้ปิดตัวลงชั่วคราว

“สิระ”ปูดในสภาฯมีลอบเล่นพนัน

 ขณะที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ.การยุติธรรมฯ สภาฯ เปิดเผยว่า ตนได้ข่าวว่าในสภาฯ ก็มีการเปิดให้เล่นการพนัน ตนจะตรวจสอบว่าเล่นกันจริงหรือไม่ ดังนั้นเราจึงต้องเริ่มต้นจากรัฐสภา จะไม่ปล่อยให้มีการเล่นการพนันในรัฐสภา ถ้ารัฐสภายังปล่อยให้มีการเล่นการพนัน ก็ไม่ต้องไปทำแล้วประเทศนี้ เมื่อได้ข่าวมาก็ได้บอกกับผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว เดี๋ยวจะไปจู่โจม และเตือนท่านผู้มีอำนาจที่ตนได้แจ้งไปแล้วว่า อย่าให้ตนไปจู่โจม ถ้าตนไม่ทำเท่ากับผมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่