"สมเด็จพระสังฆราชฯ" มีพระดำรัสถวายพระพร "พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
"สมเด็จพระสังฆราช" มีพระดำรัสถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2563 ความว่า
“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิต สำแดงความปีติโสมนัสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษามาโดยสวัสดี นับถึงบัดนี้ได้ 88 พรรษาบริบูรณ์
สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงต่อปวงพสกนิกร ประดุจแม่ของแผ่นดิน เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อทรงนำพาความผาสุกร่มเย็นมาสู่แผ่นดินไทย เป็นเวลาเนิ่นนานหลายทศวรรษ
กระแสพระราโชวาทและพระราชดำรัสอันอ่อนหวานจับใจ ล้วนแฝงด้วยพระราชกุศโลบายโน้มน้าวน้ำใจประชาชน ให้ตั้งตนบนวิถีแห่งความดีงาม ให้รู้พากเพียรพยายามคนละไม้คนละมือ ที่จะยึดถือประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนตน สะท้อนความละเอียดอ่อนในพระกมลอันสุขุมคัมภีรภาพ เป็นที่ซาบซึ้งตรึงใจไทยทั่วหน้า พระราชวาจาของพระองค์ จึงได้ชื่อว่าเป็น ‘วาจาสุภาษิต’ เพราะล้วนเป็นไปเพื่อความสำเร็จประโยชน์แก่ประเทศชาติ ปราศจากเหตุเบียดเบียนผู้หนึ่งผู้ใด สมตามนัยแห่งพระพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า
‘ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย ปเร จ น วิหึเสยฺย สา เว วาจา สุภาสิตา.’
แปลความว่า ‘บุคคลพึงกล่าววาจาที่ไม่เป็นเหตุยังตนให้เดือดร้อน และไม่เป็นเหตุเบียดเบียนผู้อื่น, วาจานั้นแล เป็นสุภาษิต.’
แม้พระชนมพรรษาซึ่งล่วงไป ยังให้พระพลานามัยผ่อนลงตามกาล หากพระราชปณิธานเพื่อประโยชน์สุขของปวงประชา ยังปรากฏชัดอยู่ในพระราโชวาทและพระราชดำรัสทุกองค์ และยังสถิตมั่นคงอยู่ในพระราชจริยาของพระราชโอรส พระราชธิดา และพระราชนัดดา ผู้ทรงมุ่งมั่นสืบสานพระราชกรณียกิจ สร้างสรรค์ความเจริญวัฒนาของประชาชาติไทยมาตราบเท่าทุกวันนี้
ณ อุดมมงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา จึงขอประชาราษฎร จงสามัคคีร่วมใจกันสนองพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการประพฤติตนเสมือนลูกที่ดี เป็นผู้คิดดี พูดดี และทำดี เพื่อ ‘แม่แห่งชาติ’ จักได้ทรงพระเกษมสำราญ ทรงเบาพระราชหฤทัย ว่าลูกไทยของพระองค์ ล้วนมีสติสำนึกรู้อยู่ในคุณธรรม พร้อมเป็นกำลังของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์สืบไป
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และพระราชกุศลธรรมจริยา โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นกำลังพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นมิ่งขวัญของอาณาประชาชน ตราบกาลนาน เทอญ”