แจ้งตร.จับ 'อานนท์-พวก' พร้อมถอนประกัน จี้ ปปง. ยึดทรัพย์กลุ่มหนุนเบื้องหลังม็อบ

จากกรณีเมื่อวันที่10 ส.ค. 63 สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. และกลุ่มแนวร่วมนิสิตมหาสารคามเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มเสรีเทยพลัส เป็นต้น มีการจัดกิจกรรมชุมนุมแสดงออกทางการเมือง “เราไม่ต้องการปฏิรูปแต่เราต้องการปฏิวัติ” ที่ลานพญานาค มหาวิทยาธรรมศาสตร์ รังสิต บรรยากาศพบว่าหลายคนถือป้ายโจมตีรัฐบาล และเรียกร้องความยุติธรรมให้นักกิจกรรมทางการเมืองที่สูญหายไปตั้งแต่หลังรัฐประหารปี 2557

นอกจากนี้ มีผู้ขึ้นเวทีปราศรัย ประมาณ 10 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาทั้งจากธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขณะที่นักศึกษาอาชีวะจากกลุ่ม “ฟันเฟืองประชาธิปไตย” รับหน้าที่เป็นการ์ดอาสา คอยดูแลความปลอดภัยในที่ชุมนุม โดยนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก ซึ่งถูกออกหมายจับและดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่นจากการร่วมชุมนุมเมื่อวันที่18 ก.ค. 63 ขึ้นปราศรัย บนเวทีด้วย นับเป็นเวทีที่สองของนายอานนท์ และเวทีแรกของนายภาณุพงศ์ที่ขึ้นพูดหลังจากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อ 8 ส.ค.63 ทั้งสองคนย้ำว่าประเด็นเกี่ยวกับสถาบันฯ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (13 ส.ค. 63) นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นภาคพลเมือง จ.ขอนแก่น นำคณะกรรมการองค์กร เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมพวก โดย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสารีกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น รับหนังสือเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

นายตุลย์ กล่าวว่า การขึ้นเวทีปราศรัยธรรมศาสตร์จะไม่ทน นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและพวกนั้น อยากให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เครือข่ายองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น จึงแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายใน 4 ประเด็น

“ การชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถือว่ามีความผิด ในฐานะเครือข่ายภาคพลเมืองจึงรวมตัวกันร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีอาญากับนายอานนท์ และกลุ่มหนุนหลัง พร้อมให้เอาผิดตาม 4 ข้อเรียกร้องที่เครือข่ายยื่นต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น คือการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ยื่นหนังสือต่อศาลอาญา ถอนประกันตัวนายอานนท์ เพราะทำผิดเงื่อนไขการให้ประกันตัว ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายแผ่นดินทั้งยังคงเป็นการกระทำผิดซ้ำซาก โดยให้ดำเนินการเอาผิดตาม มาตรา 112 และ 116 เพื่อให้ตัวการและผู้ที่สนับสนุนได้รับโทษอย่างเด็ดขาด

รวมทั้งการให้พนักงานสอบสวน จะต้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ด้านการเงิน และทรัพย์สินของ ผู้สนับสนุน เพื่อให้ ปปง. ยึดทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สุจริต และที่สำคัญคือการที่พนักงานสอบสวนจะต้องคัดค้านการประกันตัวผู้ที่กระทำผิดทุกราย ที่ดูหมิ่นใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ และความมั่นคงของรัฐ ”นายตุลย์ กล่าว

ขณะที่การชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆที่เกิดขึ้น ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมายอย่าล่วงเกินหรือดูหมิ่นสถาบันโดยเด็ดขาด