ครูตาบอดสอนอังกฤษได้ทุนFulbrightได้อย่างไร
ทั้งๆที่ตาบอดมาแต่กำเนิด ทำไมถึงเรียนจบคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองได้ แถมยังสอบบรรจุครั้งแรกได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ล่าสุดได้ทุน Fulbright ไปเรียนต่อปริญญาโทที่Portland StateUniversity(PSU) เป็นเวลา 2 ปี
ต้นปีที่แล้ว.ไวรัลเผยแพร่ในโลกโชเชียลเรื่องราวของ “ครูไอซ์ -ดำเกิง มุ่งธัญญา”ชายหนุ่มที่มองไม่เห็นมาแต่กำเนิดสอน ครูสอนภาษาอังกฤษโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยที่เรียกน้ำตาผู้เข้าชมได้เกือบทุกคนที่คลิ๊กเข้าไปดู วันนี้นักเรียนที่เรียนกับครูไอซ์ได้คะแนนดีอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุดเขาเป็น 1 ใน 8 คนไทยได้ทุน Fulbright ไปเรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา( Master of tesol )ที่Portland State University(PSU) เป็นเวลา 2 ปี
ที่เป็นอย่างนั้นเพราะ ครูไอซ์ ชอบภาษาอังกฤษ และมีความฝันอยากเป็นครู ที่เป็น Growth Mindset ชุดความคิดแบบเติบโต ที่คอยผลักดันให้สามารถพัฒนาศักยภาพของ ตนเองไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการเรียนมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนสามารถเดินตามความฝันได้สำเร็จเรียนจบคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง
ปีนี้ครูไอซ์อายุ 27 ปี เขาเกิดในครอบครัว “ทหาร” น้องชาย 1 คนของเขามองเห็นแสงอาทิตย์ตอนเช้าและพระจันทร์ยามค่ำ แต่เขาคลอดก่อนกำหนดต้องเข้าเตาอบ จึงต้องอยู่ในโลกมืดมาตั้งแต่เกิด แต่หาได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของเขาไม่ จากศาลายาบ้านเกิดมาเรียนที่ อนุบาลละอออุทิศ ต่อชั้นประถมที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ด้วยผลการเรียนที่ดีมาโดยตลอด กระทั่งได้เป็นหนึ่งใน 2 โควต้าคนบกพร่องทางสายตาของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ที่ให้เป็นประจำทุกปี
‘สำเนียงดีนะ’ คือคำที่ครูชม เมื่อครั้งที่เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ทำให้ครูไอซ์ ชอบภาษาอังกฤษ และอยากจะเรียนให้เก่งๆ ตอกย้ำมากขึ้นว่า “ภาษาอังกฤษ” คือทางของเขายิ่งขึ้นเมื่อได้ทุนเรียนหลักสูตร Intensive English ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล จนเรียกว่าเป็นแรงบันดาลใจทำให้ “ครูไอซ์” ชอบภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่อธิบายเรื่องราวต่างๆเวลารุ่นน้องถามได้เข้าใจ จนอยากเป็นครูในเวลาต่อมา และแอดมิชชั่นเรียนต่อในคณะครุศาสตร์ สาขามัธยมศิลป์ เอกภาษาอังกฤษ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจบหลักสูตร 5 ปี เมื่อปี 2559
คนเราทุกคนมีความฝันและการทำตามฝันได้คือสิ่งที่มีความสุขที่สุดและมักจะทำได้ดี ครูไอซ์ ก็เช่นกัน เขาชอบภาษาอังกฤษ อยากเป็นครู เคยฝึกสอนที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ และสตรีศรีสุริโยทัย แม้ว่าหลังเรียนจบเขาไปทำงานที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
เหมือนโชคเข้าข้าง เดือนกันยายนปีที่เรียนจบ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 เปิดสอบครูผู้ช่วยเอกภาษาอังกฤษ 56 ตำแหน่ง ช่วงนั้นมีครูโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยเกษียณ 1 ตำแหน่งพอดี ครูไอซ์ สอบได้ที่ 4 จึงเลือกเป็นครูผู้ช่วยที่ โรงเรียนที่เคยฝึกสอน และประทับใจความเป็นกันเองของครูโรงเรียนแห่งนี้และความมีน้ำใจของนักเรียน
การสอนนักเรียนชั้ม.1-ม.6 เกือบ 300 คนที่มีความแตกต่างกันว่าเป็นการบ้านที่ “หนัก”เอาการสำหรับคนที่บกพร่องทางการมองเห็น ทำให้ “ครูไอซ์” ต้องคิดแผนการสอนตลอดเวลาว่า“จะสอนอย่างไรให้เด็กอยากเรียน” ที่ทำให้สอนสนุก นักเรียนเข้าใจไม่เบื่อและสอบได้คะแนนดี สอนวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ จากสิ่งที่ใกล้ตัว เริ่มจากการฟัง การอ่านอะไรง่ายๆ หรือสิ่งของใกล้ตัว หาศัพท์มาติดโพทอิสไว้ ทำให้เกิดความเคยชินฝึกทำทุกวันเรื่อยๆ เน้นให้พูดออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน
“คิดตลอดเลยว่าจะสอนอย่างไรให้เด็กเขาอยากเรียน เน้นการใช้ Powerpoint เพื่อไว้นำเสนอเนื้อหาคิดว่าทำอย่างไรที่จะกดคีย์บอร์ดแล้วมีภาพวิดีโอแทรกเข้าไป หรือ ทำอย่างไรให้นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม หรือใช้บอร์ดเกมมาสอน แต่ต้องดูจำนวนเด็กในห้องด้วยให้เขามีส่วนร่วมได้อย่างไร และหาความรู้อื่ืนๆเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลาเพื่อนำประกอบแผนการสอนให้น่าสนใจ หลังจากสอนไปแล้ว นักเรียนที่เคยไม่ชอบภาษาอังกฤษ ได้คะแนนไม่ดีมาเรียนกับครูไอซ์ กลับเปลี่ยนมาชอบภาษาอังกฤษมากขึ้น และพยายามเรียนจนทำคะแนนได้ดี
ทุกวันนี้ เขาอยู่คอนโดย่านบางหว้า ห่างจากโรงเรียน 6 สถานี ทุกๆวัน ครูไอซ์ จะใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส พอมาถึงสถานีหน้าโรงเรียน จะมีนักเรียนมารับ และเดินเข้าโรงเรียนพร้อมกันเป็นประจำ ในวันที่นักเรียนติดธุระ เขาจะใช้บริการวินมอเตอร์ไซต์ หลังการเรื่องราวของเขามีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย เป็นกำลังให้กับผู้พิการทางสายตาได้ด้วย ทั้งๆที่ “ครูไอซ์”บอกว่าเป็นสิ่งที่เขาทำเป็นธรรมดาทุกวัน แต่กลับเป็นสิ่งที่ทำให้คนมีกำลังใจได้จากประสบการณ์ทำให้เห็นว่าอาชีพครู ไม่ใช่แค่สอนแต่จะต้องมีความใส่ใจนักเรียน ต้องทุ่มเทให้นักเรียนได้เรียนรู้ในสิ่งที่ดีให้ได้มากที่สุด
“เมื่อเราเกิดมาพร้อมกับปัจจัย ที่มีน้อยกว่าคนอื่นก็คงต้องพยามมากกว่าคนอื่น ถ้าเราไม่จำกัดความสามารถของตัวเองผมว่าคนเราทำได้ทุกอย่าง หลายเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงมหาวิทยาลัย เช่น ตอนเรียนปี 4 ผมต้องทำ individual study ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ การทำงานวิจัย ซึ่งมีขั้นตอนการ ทำงานที่ยากมากๆ จนผมเคยคิดว่ามันจะผ่านไหม แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมาได้” ครูไอซ์ กล่าว
Growth Mindset คือ ชุดความคิดแบบเติบโต ที่คอยผลักดันให้คนเราสามารถพัฒนาศักยภาพของ ตนเองไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และกล่าวได้ว่าครูไอซ์ – ดำเกิง มุ่งธัญญา มีชุดความคิดนี้อยู่ในใจอย่างเต็มเปี่ยม ดังนั้น ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการเรียนมาตั้งแต่สมัยมัธยม ในที่สุด ไอซ์ก็สามารถเดินตามความฝัน
“การได้มาเป็นครูคือสิ่งที่ผมภูมิใจมากครับ เพราะนอกจากจะได้ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กๆ แล้ว ยังเป็นอาชีพที่ทำให้เราสามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ แต่ผมก็ยังคิดว่าเราน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ ประกอบกับในเวลา ต่อมามีอาจารย์แนะนำให้ลองไปสอบชิงทุน Fulbright ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา จนกระทั่งได้ทุน Fulbright เป็นความภาคภูมิใจที่ทำสำเร็จ”
ปัจจุบันครูไอซ์เป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านสื่อต่างๆ ล่าสุดเรื่องราวของครูไอซ์ถูกนำไปตีพิมพ์ในหนังสือ “เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง” ที่จัดทำโดยสถาบันอาศรมศิลป์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า แม้ว่าชีวิตของคนเราจะเต็มไปด้วยอุปสรรค หากแต่การมี mindset หรือกรอบความคิดในการดำเนินชีวิตที่ดีก็สามารถผลักดันให้คนเราทุกคนไม่ยอมจำนนกับอุปสรรคเหล่านั้น สนใจขอรับหนังสือ “เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง” โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อได้ที่เฟสบุ้คเพจ พื้นที่เรียนรู้ life is learning