'ชาญศิลป์' มั่นใจฟื้นฟูการบินไทย ไร้เจ้าหนี้รายใหญ่ยื่นคัดค้าน
เจ้าหนี้รายย่อยยื่นคัดค้านฟื้นฟูการบินไทย ชี้ไม่มีผลต่อกระบวนการฟื้นฟู "ชาญศิลป์” มั่นใจแจงศาลล้มละลายกลาง 17 ส.ค.นี้ เตรียมยื่นผู้ทำแผน เผยเจรจาเจ้าหนี้ราบรื่น
ศาลล้มละลายกลางนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) นัดแรกในวันที่ 17 ส.ค.2563 ซึ่งการพิจารณาของศาลจะทำให้มีความชัดเจนเกี่ยวกับธุรกิจการบินไทยมากขึ้น
แหล่งข่าวจากการบินไทยเปิดเผยว่า ศาลล้มละลายกลางกำหนดให้เจ้าหนี้ยื่นคัดค้านคำขอฟื้นฟูกิจการได้ภายในวานนี้ (14 ส.ค.) ซึ่งการบินไทยได้รับแจ้งจากศาลล้มละลายกลางว่ามีเจ้าหนี้ยื่นคัดค้าน 15 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้รายย่อยและรวมหนี้แล้วไม่ถึง 2 ใน 3 ของหนี้ทั้งหมด จึงทำให้เจ้าหนี้ที่ยื่นไม่สามารถคัดค้านการฟื้นฟูกิจการได้
ทั้งนี้ ทำให้ขั้นตอนการฟื้นฟูกิจการเดินหน้าต่อและรอการพิจารณาของศาลล้มละลายกลางในวันที่ 17 ส.ค.นี้
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าวกับกรุงเทพธุรกิจ ว่า การบินไทยเตรียมข้อมูลที่จำเป็นเพื่อนำเสนอต่อศาลล้มละลายกลางเต็มที่โดยศาลจะพิจารณาคำสั่ง 2 ประเด็น คือ 1.การบินไทยควรได้รับการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ 2.ควรแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่การบินไทยเสนอหรือไม่
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า วันที่ 17 ส.ค.นี้ ศาลยังไม่พิจารณาเจ้าหนี้แต่ละรายว่าจะได้รับชำระหนี้เท่าไรและเมื่อไหร่ เพราะขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นหลังศาลมีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ โดยหากศาลมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนเร็วเท่าไหร่จะทำให้เจ้าหนี้ทุกรายได้รับเงื่อนไขการรับชำระหนี้จากแผนฟื้นฟูกิจการ
“ผมมั่นใจว่าแผนฟื้นฟูการบินไทยจะผ่านการอนุมัติจากเจ้าหนี้ และผมมั่นใจว่าคณะผู้ทำแผนที่การบินไทยเสนอชื่อเป็นคณะผู้ทำแผนที่มีความรู้ความสามารถ จะทำงานอย่างหนักเพื่อศึกษาแนวทางในการชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ ปรับโครงสร้างองค์กร และโครงสร้างธุรกิจ รวมทั้งพนักงานและผู้บริหารพร้อมใจกันให้การฟื้นฟูสำเร็จ”
รายงานข่าวจากการบินไทยระบุว่า การบินไทยเสนอชื่อผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ คือ บริษัทอีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด รวมกับกรรมการการบินไทย 6 คน คือ
1.พลอากาศเอก ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน
2.นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล
3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
4.นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์
5.นายบุญทักษ์ หวังเจริญ
6.นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า กระบวนการฟื้นฟูกิจการจะประสบความสำเร็จได้ขึ้นกับการสนับสนุนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ทั้งจากเจ้าหนี้ คู่ค้า ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ จึงต้องการให้ทุกคนไม่คัดค้านในวันที่ 17 ส.ค.นี้ เพื่อให้กระบวนการในชั้นแรกดำเนินการไปโดยเร็วที่สุด ประโยชน์จะเกิดขึ้นกับเจ้าหนี้และการบินไทย
ขณะนี้มีโมเดลที่เชื่อว่าจะพาการบินไทยฟื้นได้ โดยขั้นตอนภายหลังวันที่ 17 ส.ค.นี้ หากศาลอนุมัติแผนและผู้จัดทำแผนใช้เวลา 1–2 สัปดาห์ทราบผล หลังจากนั้นเจ้าหนี้จะมาแจ้งมูลหนี้ และภายใน 3 เดือน การบินไทยจะยื่นแผนทั้งหมดและเริ่มปรับปรุงธุรกิจได้ โดยคาดใช้เวลา 3–5 ปี จะกลับมาฟื้นธุรกิจ