ญี่ปุ่นรำลึก 75 ปีแพ้สงคราม ย้ำโศกนาฏกรรมไม่ซ้ำรอย
ญี่ปุ่นจัดงานรำลึก 75 ปี ที่ประกาศยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 นายกฯชินโซ อาเบะ ให้คำมั่นโศกนาฏกรรมแห่งสงครามจะไม่มีวันซ้ำรอยอีก สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะทรงแสดงความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งต่ออดีตช่วงสงคราม ที่ยังหลอกหลอนเอเชียตะวันออกถึงทุกวันนี้
สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงไป 75 ปีแล้ว นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น กล่าวในวันรำลึกครบรอบ 75 ปี ญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ให้คำมั่นโศกนาฏกรรมแห่งสงครามจะไม่มีวันซ้ำรอยอีก สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะทรงแสดงความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งต่ออดีตช่วงสงคราม ที่ยังคงหลอกหลอนเอเชียตะวันออกถึงทุกวันนี้
วานนี้ (15 ส.ค.) ญี่ปุ่นจัดงานรำลึกครบรอบ 75 ปี ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยปีนี้ต้องจัดเล็กลงเพราะการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ทรงร่วมพิธีด้วย
ทั้งสองพระองค์ทรงหน้ากากอนามัย ทรงยืนหน้าแท่นบูชาที่ตกแต่งด้วยดอกไม้แล้วทรงโค้งคารวะ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ทรงมีพระราชดำรัส “ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การทำลายล้างจากสงครามจะไม่เกิดขึ้นอีก”
สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ พระชนมพรรษา 60 พรรษา เป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นพระองค์แรก ที่ประสูติหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พระองค์ทรงเป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต ที่กองทัพญี่ปุ่นสู้สงครามในนามของพระองค์
พิธีการในลำดับต่อมา นายกฯ อาเบะสวมหน้ากากป้องกันโควิด กล่าวถ้อยแถลง “โศกนาฏกรรมแห่งสงครามจะไม่ซ้ำรอยอีก เราจะเดินหน้ารักษาคำมั่นสัญญาอันแน่วแน่นี้ต่อไป”
จากนั้นเขาส่งเครื่องบรรณาการไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้ายาสุคุนิในกรุงโตเกียว แต่ไม่ได้เดินทางไปคารวะด้วยตนเองเพื่อไม่ให้จีนและเกาหลีใต้ขุ่นเคือง แต่มีรัฐมนตรีอย่างน้อย 4 คนไปที่ศาลเจ้า
ศาลเจ้ายาสุคุนิ เป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากสงคราม รวมถึงผู้นำญี่ปุ่น 14 คนที่ศาลฝ่ายพันธมิตรพิพากษาว่า เป็นอาชญากรสงคราม ศาลเจ้าแห่งนี้จึงถูกจีนและเกาหลีใต้มองว่า เป็นสัญลักษณ์การรุกรานของทหารญี่ปุ่น
ชูอิจิ ทาคาโทริ สมาชิกพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของอาเบะ กล่าวว่า เขามาแสดงความเคารพที่ศาลเจ้าในนามของอาเบะผู้เป็นหัวหน้าพรรค ส่งสารว่า อาเบะ “ขอแสดงความเคารพจากใจต่อผู้เสียชีวิตจากสงคราม และสวดภาวนาให้ดวงวิญญาณของพวกเขาพักผ่อนอย่างสงบสุขถาวร”
อาเบะมาศาลเจ้ายาสุคุนิด้วยตนเองครั้งสุดท้าย เมื่อเดือน ธ.ค.2556 สร้างความโกรธเคืองให้กับจีนและเกาหลีใต้มาก จากนั้นเขาก็ได้แต่ส่งเครื่องบรรณาการมา
ด้านชินจิโร โคอิซุมิ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมวัย 39 ปี ที่ได้รับการกล่าวขวัญบ่อยครั้งว่านายกฯ ในอนาคต ก็มาเยือนศาลเจ้าในวันรำลึกสะเทือนอารมณ์นี้ด้วย
ที่กรุงโซล ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ แถลงว่า พร้อมเสมอที่จะหารือข้อขัดแย้งทางประวัติศาสตร์กับโตเกียว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ แสดงความผิดหวังอย่างยิ่ง และกังวลที่รัฐมนตรีญี่ปุ่นไปคารวะศาลเจ้ายาสุคุนิ และผู้นำญี่ปุ่นจะต้องกระทำการที่แสดงให้เห็นถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ที่กรุงโตเกียว ชายหญิงชาวญี่ปุ่นหลายพันคนฝ่ากระแสความร้อน และการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาแสดงความเคารพที่ศาล ผู้คนเข้าคิวกันอย่างแออัด ไม่สนเครื่องหมายให้รักษาระยะห่าง หลายคนเข้าแถวรอนานหลายชั่วโมง กางร่มเล็กๆ ไว้คอยกันแดดท่ามกลางความร้อนกว่า 35 องศาเซลเซียส
หลังสิ้นสุดสงคราม สหรัฐและญี่ปุ่นได้กลายเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงเหนียวแน่นกันมานานหลายสิบปี แต่ตำนานแห่งสงครามยังหลอกหลอนเอเชียตะวันออกมิรู้คลาย
ชาวเกาหลีกำหนดให้วันที่ 15 ส.ค. เป็นวันอิสรภาพ ปลดแอกคาบสมุทรเกาหลีจากการเป็นเมืองขึ้นญี่ปุ่นระหว่างปี 2453-2488
ขณะที่จีนก็มีความทรงจำอันขมขื่นจากการถูกกองทัพญี่ปุ่นรุกรานและยึดครองหลายพื้นที่ของประเทศ ระหว่างปี 2474-2488
ในโอกาสนี้ หนังสือพิมพ์ทางการของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน เสนอบททัศนะวิจารณ์ ระบุ
“เราต้องเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ ให้ประวัติศาสตร์เป็นเครื่องเตือนถึงอนาคต และแสดงให้เห็นว่าเราเตรียมพร้อมต่อสู้หากเกิดสงคราม”
ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้มีปัญหากันหนักเรื่องค่าชดเชยจากการบังคับใช้แรงงานชาวเกาหลีให้ไปทำงานในเหมืองแร่และโรงงานของญี่ปุ่นในช่วงสงคราม ประธานาธิบดีมุนกล่าวว่า ประตูแห่งการเจรจายังคงเปิดกว้างเสมอ
นอกจากนี้ยังมีความขัดแย้งเรื่อง “หญิงบำเรอกาม” ที่หลายคนเป็นชาวเกาหลี
ในญี่ปุ่นเองความเข้าใจเรื่องสงครามยังแตกต่างกันมาก เนื่องจากประชาชนกว่า 80% เกิดหลังจากสงครามยุติ อาเบะกล่าวว่า คนรุ่นอนาคตไม่ควรต้องขอโทษกับความผิดแห่งอดีต
โนบุโกะ วาตานาเบ วัย 51 ปี ผู้มาเยือนศาลเจ้ายาสุคุนิ กล่าวว่า เธอเข้าใจว่าทำไมชาวเกาหลีถึงไม่พอใจกับการมาศาลเจ้าแห่งนี้ แต่ความสัมพันธ์สองประเทศอาจดีขึ้นได้ ถ้าผู้คนได้คุยกันโดยตรงแบบเปิดใจ
สำหรับงานรัฐพิธีปีนี้มีคนมาร่วมไม่ถึง 600 คน ส่วนใหญ่เป็นญาติผู้เสียชีวิตในสงคราม ลดลงมากจากปีก่อนที่มากันกว่า 6,000 คน ปีนี้ต้องจัดที่นั่งเว้นระยะ ใช้การแสดงดนตรีแทนการร้องเพลงชาติ