'สมยศ' โชว์ภาพ 26 ก.พ.59 อยู่ 'สวิตเซอร์แลนด์' ไม่เกี่ยวคดี 'บอส'
"สมยศ" แจง คกก."ตรวจสอบข้อเท็จจริง" คดี "บอส อยู่วิทยา" 3 ชั่วโมง หอบหลักฐานโชว์ 26 ก.พ.59 มีภารกิจที่ "สวิตเซอร์แลนด์" เผยไม่รู้จักคนทำคดี สวน "ธนสิทธิ" ไม่ได้เป็นคนแนะนำ "อ.สายประสิทธิ์" ยันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หารือใดทั้งสิ้น
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าชี้แจง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธอยู่วิทยา หรือ บอส ที่มี นายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ถึงข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงการนำ นายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์ประจำ และ หัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ให้ความเห็นเกี่ยวกับความเร็วรถของนายวรยุทธ อยู่วิทยา วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 โดยใช้เวลา3ชั่วโมงว่า วันนี้ได้เข้ามาเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง โดยได้นำเอกสารการภารกิจระหว่างวันที่ 23-28 กุมภาพันธ์ 2559 มาชี้แจงต่อคณะกรรมการฯ ด้วย ส่วนที่มีคนกล่าวอ้างนั้น ตนเองไม่ได้อยู่ในสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนในคดีบอส อยู่วิทยา วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 เนื่องจากช่วงนั้นไปประชุมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยืนยันไม่รู้จักบุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับทำคดีนี้เลย ส่วนกรณีที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น อ้างว่า ตนเองเป็นคนนำ อ.ประสิทธิ์ มาให้ข้อมูล ตนเองไม่ได้ทำตามคำกล่าวอ้าง พร้อมยืนยันว่าไม่เคยขัดแย้งส่วนตัวกับใคร และไม่มีปัญหากับใคร
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนขอบคุณคณะกรรมการชุดนายวิชาที่เปิดเวทีให้พิสูจน์ตัวเอง และตนเองไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่มีการหารือใดๆทั้งสิ้น ส่วนใครทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบ เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบ เมื่อเป็นข่าวออกไป แล้วถูกสังคมพิพากษา ตนเองและครอบครัวก็ได้รับผลกระทบ ทุกคนก็มองว่าตนเองเป็นคนไม่ดี เป็นคนเลวที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ และที่ยังไม่ออกมาชี้แจงตั้งแต่แรก เพราะอยากรู้จักคนว่าใครคือเพื่อนแท้ ใครคือคนที่เข้ามาให้กำลังใจ และใครคือคนที่รอซ้ำเติมทำร้ายตนเอง และรับได้กับสิ่งที่ผ่านมารู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป
"ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ไม่เคยคุยกัน และที่ไม่ได้ไปชี้แจงกับกรรมาธิการการกฎหมายฯ ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธานนั้นเพราะรอมาชี้แจงชุดนี้ และหลังจากนี้คงไม่ไปชี้แจงแล้วเช่นกัน" พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนยอมรับว่า เป็นคณะกรรมาธิการสมัยสนช. ชุดที่รับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมจริง แต่ตนเองไม่ได้รับทราบรายละเอียด
ขณะที่นายวิชา เปิดเผยว่า วันนี้มีการตรวจสอบกับ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผบช.สำนักงานส่งกำลังบำรุง ซึ่งในขณะนั้น อยู่ในกองการต่างประเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้มายืนยันว่าเป็นคนดำเนินการเรื่องการติดต่ออินเตอร์โพลล์ เพื่อออกหมายแดงในการจับนายบอส ซึ่งพล.ต.ต.อภิชาติ ถูกดันดันในการทำงานหลักจากออกหมายแดงแล้ว และตั้งแต่ตอนนั้น ก็ไปช่วยทำงานที่กระทรวงแรงงาน กับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. จากนั้นก็มาเป็นผู้บังคับการกฎหมายและคดี และโยกมาเป็นผู้บัญชาการส่งกำลังบำรุง ซึ่งพล.ต.ต.อภิชาติ ได้ร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาเพราะเดือดร้อนมาก และสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมโยกย้ายตำรวจ ก็อยากฝากสื่อให้ช่วยติดตาม ว่าจะได้รับความเป็นธรรมคืนหรือไม่เพราะได้เห็นการทำงานจริงจังในการออกหมายแดง และสตช.ก็มอบหมายให้ดำเนินการ แต่ต้องเป็นที่ไม่พึงปรารถนา ทั้งนี้จึงขอแจ้งไปยังประชาชนว่าคดีนี้จึงมีความไม่ปกติ
นายวิชา กล่าวว่า ภายหลังจากอัยการสูงสุดเข้ามาชี้แจง และยืนยันว่าการสั่งการของนายเนตรนาคสุข รองอัยการสูงสุด เป็นการสั่งการโดยได้รับมอบอำนาจ ให้เป็นผู้สั่งการในเรื่องคำสั่งการร้องขอความเป็นธรรม แม้รองอัยการสูงสุด คือนายสมศักดิ์ ได้มอบอำนาจในเรื่องการดำเนินคดีอาญา ของศาลอาญากรุงเทพใต้ก็ตาม แต่เป็นคนละเรื่องของกระบวนการสั่งคดีในการร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งโดยอำนาจของนายเนตร มีอำนาจโดยสมบูรณ์หรือไม่ หากมีคดีในลักษณะนี้ ก็ขอให้อัยการสูงสุดมาให้ข้อมูลด้วยเพื่อยืนยันว่ามีการทำกรณีแบบนี้ ที่รองอัยการสูงสุดที่ได้รับมอบอำนาจ จะอำนาจสั่งคดี ทับกับคำสั่งเดิม
ส่วนกรณี พล.ต.อ.สมยศ ที่เข้าชี้แจงวันนี้ นายวิชา กล่าวว่า จากกรณีได้มีการกล่าวอ้างว่า พาอ.สายประสิทธิ์ ไปพบนั้น พล.ต.อ.สมยศ ชี้แจงว่า ไม่ได้อยู่ประเทศไทย แต่ไปประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ จึงได้รับเอกสารหลักฐานเป็นสำเนาไว้ และ พล.ต.อ.สมยศ ยอมรับว่าอยู่ในคณะกรรมาธิการ และที่อ้างถึง พ.ต.อ.ธนสิทธิ กับความเห็น นั้น ตนเองก็ไม่ได้ตรวจสอบโดยตรง เป็นเหมือนพยานบอกเล่าไม่ได้พบโดยตรง เท่ากับว่า พล.ต.อ.สมยศ ปฏิสธไม่ได้ข้องเกี่ยว แต่ยอมรับว่าเป็นคณะกรรมาธิการจริง และยอมรับว่ามีการส่งรายงานไปที่อัยการสูงสุดจริง และพล.ต.อ.สมยศ ไม่รับว่า เคยพบ พ.ต.อ.ธนสิทธิ และ พ.ต.อ.วีระดล ทัมทิบดี เมื่อครั้งเป็นผู้กำกับ สน.ทองหล่อ เพราะท่านบอกว่าไม่อยู่ในวันนั้น โดยพยานหลักฐานที่ได้จะต้องนำไปตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง
นายวิชา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ก็จะส่งรายงานการครบ 20 วัน ไปให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ และในจันทร์ ที่ 24 ส.ค. พร้อมกับเชิญตำรวจเชียงใหม่ ในคดีนายจารุชาติ มาดทองพยานปากคำสัญที่เสียชีวิต และผู้บังคับการกองการต่างประทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาชี้แจง จากนั้นจึงจะพิจารณาเรื่องกฎหมาย