กฎกระทรวงใหม่เข้ม 'บิ๊กไบค์' ต้องสอบใบขับขี่เพิ่ม!
กฎกระทรวงใหม่คุมเข้ม “บิ๊กไบค์” ต้องผ่านการอบรมและทดสอบการขับรถเพิ่มเติม เชื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
เมื่อวันที่ 20 ส.ค.63 นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. .... ทั้งนี้ จากปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากผู้ขับรถ กรมการขนส่งทางบกได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม โดยได้ยกร่างกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถและการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. .... เพื่อแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. 2548 ให้มีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน โดยร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีสาระสำคัญ เช่น กำหนดให้ใบรับรองแพทย์ที่จะนำมาใช้ประกอบการขอรับหรือขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลต้องแสดงให้เห็นว่า ผู้นั้นไม่มีโรคประจำตัวหรือสภาวะของโรคที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่า อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก จะประสานความร่วมมือกับแพทยสภาในการกำหนดโรคหรือสภาวะของโรคที่ต้องห้ามในการขอรับใบอนุญาตขับรถและจะวางแนวทางในการตรวจรับรองของแพทย์กับแพทยสภาต่อไป
คุมเข้ม “บิ๊กไบค์” ต้องสอบใบขับขี่เพิ่ม มีผลทันที 120 วัน หลังประกาศในราชกิจจาฯ
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มเติมข้อกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง "บิ๊กไบค์" (Big bike) ต้องผ่านการอบรมและทดสอบการขับรถตามที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม การให้อำนาจนายทะเบียนสามารถพิจารณาให้ผู้ขอรับหรือขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถต้องเข้ารับการตรวจและนำใบรับรองแพทย์มายืนยันความเหมาะสมในการขับรถ รวมทั้ง ยังได้กำหนดให้ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถจะต้องใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบในการดำเนินการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถดังกล่าวด้วย โดยร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สำหรับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง "บิ๊กไบค์" (Big bike) หรือรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 400cc ขึ้นไป เป็นพาหนะที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ผู้ขับขี่ต้องมีความระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย และมีประสบการณ์การใช้งาน เพราะรถมีสมรรถนะค่อนข้างสูง กำลังแรง และน้ำหนักค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้นการใช้รถต้องอาศัยทักษะความชำนาญ เพื่อการป้องกันอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์บนท้องถนน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีจำนวนรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 400cc ขึ้นไป จดทะเบียนทั้งสิ้น 216,547 คัน จากจำนวนรถจักรยานยนต์ทั้งหมด 21,284,775 คัน การที่ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวผ่านความเห็นชอบ จะส่งผลให้สามารถช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน สร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และประชาชนผู้ใช้ถนนไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน และมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
- ให้ยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการขอต่ออายุและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พ.ศ. 2548
- ปรับปรุงเอกสารหลักฐานประกอบคำขอรับใบอนุญาตขับรถ
- กำหนดเพิ่มเติมให้ใบรับรองแพทย์ที่จะนำมาใช้ประกอบการขอหรือต่อใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลต้องแสดงให้เห็นว่า ผู้ขอนอกจากไม่มีโรคประจำตัวแล้วยังไม่มีสภาวะของโรคที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่า อาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
- กำหนดให้การขอต่อใบอนุญาตขับรถทุกกรณีต้องใช้ใบรับรองแพทย์ โดยใบรับรองแพทย์มีอายุใช้ได้ตามที่แพทย์ผู้รับรองกำหนด แต่หากแพทย์ไม่ได้กำหนดอายุไว้ ให้ใช้ได้ไม่เกิน 1เดือน นับแต่วันที่ออกใบรับรองแพทย์
- เพิ่มเติมอำนาจนายทะเบียนในการสั่งให้ผู้ขอรับหรือขอต่อใบอนุญาตขับรถต้องเข้ารับ การตรวจ และนำใบรับรองแพทย์มายืนยันความเหมาะสมในการขับรถเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินการ
- ยกเลิกการใช้บัตรอื่นที่ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชนภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ภาพถ่ายบัตรอื่นที่ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชนและภาพถ่ายหรือสำเนาทะเบียนบ้านเป็นหลักฐานประกอบ คำขอรับใบอนุญาตขับรถ
- เพิ่มเติมให้สามารถนำหลักฐานที่ออกโดยหน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกมอบหมายให้ดำเนินการอบรมมาใช้ประกอบการขอรับใบอนุญาตขับรถได้
- เพิ่มเติมข้อกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขับรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังสูง (Big bike) ต้องผ่านการอบรมและทดสอบการขับรถตามที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีเป็นการเพิ่มเติม
- กำหนดให้ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถของรถประเภทเดียวกันกับที่ขอรับใบอนุญาตซึ่งรัฐบาลของประเทศอื่นออกให้ต้องยังไม่สิ้นอายุ
- เพิ่มเติมกรณีผู้ขอเป็นแรงงานต่างด้าวที่มีมติคณะรัฐมนตรีให้อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ไม่มีสิทธิขอรับใบอนุญาตขับรถชนิดส่วนบุคคล 5 ปี