เลือกตั้ง ‘สภาบัญชี’ สุดระทึก ‘วรวิทย์’ เฉือนชนะ 9 คะแนน
“วรวิทย์” เฉือนชนะการเลือกตั้ง นายกสภาวิชาชีพการบัญชี ด้วยคะแนนที่สูงกว่า “จักรกฤษฎิ์” เพียง 9 คะแนน ส่วนผลการเลือกตั้ง คณะทำงาน พบทีมงานของ “จักรกฤษฎิ์” เบียดชนะทีมของ “วรวิทย์” ด้วยคะแนนที่สูงกว่า 5 คะแนน
สภาวิชาชีพการบัญชีได้จัดให้มีการเลือกตั้งนายกสภาฯ ในวานนี้ (22ส.ค.) เพื่อมาทดแทนนายกสภาฯ คนปัจจุบันที่กำลังหมดวาระลง โดยวาระการดำรงตำแหน่งดังกล่าว มีขึ้นคราวละ 3 ปี โดยการเลือกตั้งในครั้งนี้มีทีมที่สมัครเข้ารับการคัดเลือกจำนวน 2 ทีม แบ่งเป็น ทีมของนายกสภาฯ คนปัจจุบัน คือ นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล และทีมของ นายวรวิทย์ เจนธนากุล
โดย นายวรวิทย์ ปัจจุบันถือเป็น อุปนายกคนที่สอง และประธานคณะกรรมการวิชาชีพบัญชี ด้านการบัญชีบริหาร ซึ่งอยู่ทีมเดียวกับ นายจักรกฤศฎิ์ ในการลงสมัครรับเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา แต่รอบนี้ นายวรวิทย์ ได้แยกตัวออกมาตั้งทีมใหม่เพื่อลงสมัครแข่งขันกับ นายจักรกฤศฎิ์
สำหรับวิธีการคัดเลือกใช้วิธีการลงคะแนน ซึ่งจะแบ่งเป็นการเลือกตัวนายกสภาฯ กับ เลือกคณะทำงาน โดยเริ่มลงคะแนนตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น.จากนั้น จะมีการนับคะแนนเพื่อประกาศว่าฝ่ายใดได้รับคะแนนมากกว่า ซึ่งบรรยากาศการลงคะแนนเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีสมาชิกมาร่วมลงคะแนนจำนวนมาก
ส่วนผลการลงคะแนนออกมาเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ปรากฎว่า ในส่วนของ นายกสภาฯ นายวรวิทย์ เป็นผู้ได้คะแนนมากสุดเฉือนชนะ นายจักรกฤศฎิ์ ไปประมาณ 9 คะแนน อย่างไรก็ตามการลงคะเนนในส่วนของคณะทำงาน พบว่า คณะทำงานของ นายจักรกฤศฎิ์ เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนที่มากกว่า 5 คะแนน เท่ากับว่า ตำแหน่ง นายกสภาฯ ตกเป็นของ นายวรวิทย์ แต่คณะทำงานเป็นคณะของ นายจักรกฤศฎิ์
ด้านนายวรวิทย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนทราบผลการเลือกตั้งว่า หากชนะการเลือกตั้ง จะนำระบบไอทีเข้ามาพัฒนามาตรฐานการทำบัญชีให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น พร้อมกับ การยกฐานะสมาชิกผ่านการให้ความรู้แก่สมาชิกเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในอาชีพให้มากขึ้นและทั่งถึง และจะเชื่อมความสัมพันธ์กับวิชาชีพอื่นๆ
เขากล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่า ทางกลุ่มซีพีส่งทีมของตนเข้ามาครอบสภาวิชาชีพการบัญชี โดยยืนยันว่า ทางกลุ่มซีพีไม่ได้ส่งตนมา แต่ตนต้องการอาสามาทำหน้าที่นี้ด้วยตนเอง โดยมองถึงประโยชน์ในภาพรวม ไม่ได้ต้องการหาผลโยชน์จากการลงเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งนี้ สภาวิชาชีพการบัญชีมีรายได้แค่หลัก 50 ล้านบาทเท่านั้น หากเทียบกับธุรกิจซีพีที่มีรายได้เป็นแสนล้าน ดังนั้น จึงไม่เป็นประเด็นที่กล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งหากผลประโยชน์ในสภาวิชาชีพการบัญชีมีจริง จะต้องมีทีมที่ลงเลือกตั้งมากกว่า 2 ทีมแน่นอน
ด้าน นายจักรกฤศฎิ์ กล่าวก่อนทราบผลการเลือกตั้งว่า วิสัยทัศน์ในการสมัครเข้าชิงตำแหน่งสำหรับทีมของตนนั้น คือ ต้องการผลักดันให้สมาชิกสามารถจัดทำบัญชีที่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์การกำกับต่างๆและช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดทำบัญชีเล่มเดียวได้อย่างถูกต้อง โดยจะต้องดูแลทั้งผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดใหญ่ให้มีต้นทุนทางบัญชีที่ถูกลง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตนได้ผลักดันการผ่อนผันมาตรฐานการบัญชีต่างๆเพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีการปรับตัว แต่ยังคงมาตรฐานหลักไว้ โดยได้นำระบบไอทีเข้ามาช่วยในการจัดทำบัญชีเล่มเดียว ซึ่งจะเชื่อมโยงและอยู่ในมาตรฐานบัญชีกับหน่วยงานต่างๆโดยเฉพาะกรมสรรพากรและสถาบันการเงิน
“ขณะนี้ สภาวิชาชีพการบัญชีจะเร่งจัดทำรูปแบบบัญชีทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเชื่อมโยงระบบข้อมูลกับธนาคารกรุงไทย และหลังจากนี้ จะจัดทำบัญชีจิ๋วเพื่อผู้ประกอบการคนตัวเล็กให้สามารถจัดทำบัญชีเล่มเดียวได้อย่างถูกต้องเพื่อให้สามารถรายงานต่อกรมสรรพากรได้”
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้เขากล่าวว่า ทีมของตนไม่มีนโยบายการซื้อเสียงหรือระดมพลมาลงคะแนน แต่จะให้เป็นการเลือกตั้งโดยอิสระ
ทั้งนี้ หากทีมตนได้รับการเลือกตั้ง จะพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้ารับเป็นคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชีจากผู้ทรงคุณวุฒิและจากนักวิชาการ เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางด้านอาชีพ