รัฐบาลดันตั้ง '200 สสร.' รื้อรัฐธรรมนูญ

ความเคลื่อนไหว การเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนของรัฐบาล นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยระหว่างประชุมคณะทำงานพิจารณาโครงสร้างสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะยื่นญัตติเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพียงร่างเดียว ซึ่งเป็นเนื้อหาที่มาจากตัวร่างของแต่ละพรรคการเมือง

นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงโครงสร้าง ส.ส.ร.ที่กำหนดส.ส.ร.เลือกตั้งจากจังหวัด 150 คน และอีก 50 คน มาจากการแต่งตั้งนักวิชาการ โดยคณบดี อธิการบดี นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ 10 คน ตัวแทนนักเรียน นิสิต นักศึกษา 10 คน ส่วนที่เหลือจะมาจากตัวแทนรัฐสภา หรือผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งจะสรุปกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้า ญัตติจะเป็นรูปเป็นร่างและพร้อมที่จะยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร

ส่วนการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 9 - 10 ก.ย.อาจเป็นวาระการอภิปรายรัฐบาลทั่วไปโดยไม่ลงมติของฝ่ายค้านตามมาตร 152 ส่วนการพิจารณาญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญคาดว่าจะเข้าที่ประชุมรัฐสภาประมาณวันที่ 23 และ 24 ก.ย.นี้ ก่อนปิดสมัยประชุมแน่นอน ซึ่งเชื่อว่า เวลาทั้ง 2 วัน สมาชิกรัฐสภาจะได้ใช้เวลาอภิปรายอย่างเต็มที่

สภาฯจ่อถกญัตติฝ่ายค้าน30ส.ค.

ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ญัตติของ 5 พรรคฝ่ายค้านที่เสนอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมภายในวันที่ 30 ส.ค.นี้ และหากมีการยื่นญัตติเพิ่มเติมก็สามารถนำมาพิจารณาร่วมกันได้ แต่จะต้องเป็นเรื่องในทำนองเดียวกัน ซึ่งฉบับที่ยื่นมาก่อนก็สามารถพิจารณาก่อนได้เเต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะทันสมัยประชุมนี้หรือไม่ ซึ่งจะให้วิป ทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน

ส่วนญัตติของพรรคเพื่อไทยที่ขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ว่าวิปทั้ง2ฝ่ายก็ต้องหารือร่วมกันถึงกรอบเวลาและกำหนดวันการอภิปราย

ส.ว.ถกเตรียมประชุมร่วม26ก.ย.

ขณะที่ท่าทีจากส.ว. นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ในฐานะวิปวุฒิสภา เปิดเผยว่า วันที่ 26 ส.ค.วิปวุฒิสภา จะหารือต่อประเด็นการเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภา หลังจากที่ประธานรัฐสภา นัดประชุม วันที่ 1 ก.ย. และบรรจุญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 ด้วย 

ทั้งนี้วิปวุฒิสภา ยังไม่มีมติใดๆ ต่อญัตติที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะต้องรอให้เห็นรายละเอียดของญัตติทั้งหมด ส่วนการตั้งส.ส.ร. เชื่อว่า ส.ว.ไม่ขัดแย้ง และไม่ขวางกระแส

“ข้อเสนอให้คลายล็อคมาตรา 256 ด้วยการตัดเสียงส.ว. 1 ใน 3 ออกนั้น ส่วนตัวไม่ขัดข้อง เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านเมืองเดินหน้า ลดขัดแย้ง แต่ไม่ขอก้าวล่วงเสียงส่วนใหญ่ของส.ว. ”นายวันชัย กล่าว

นายกฯลั่นวันนี้เป็นประชาธิปไตย

ส่วนความเคลื่อนไหวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นำครม.ลงพื้นที่จ.ระยอง ก่อนการประชุมครม.นอกสถานที่ วันนี้(25ส.ค.) โดยระหว่างเดินทางมาเยี่ยมชมตลาดสินค้าครบวงจรเทศบาลบ้านเพ(ตลาด100เสา) เพื่อพบปะกับชาวระยองและตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยว

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า เป็นที่ทราบดีว่าเรากำลังอยู่ในช่วงวิกฤตตนรับฟังไม่เคยปิดกั้นแต่หลังจากนี้ก็ยังจำเป็นต้องเข้มงวดต่อไป ดังนั้นอย่าให้รัฐบังคับเพราะจะไม่เป็นผลดีจึงขอให้ร่วมมือกันโดยอยากให้ฟัง 2 ทางยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีปัญหากับใครและบังคับใครไม่ได้

“ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและความมีเสถียรพภาพของรัฐบาลไม่ง่ายนักในการบริหารบ้านเมืองในสถานการณ์วันนี้”นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีรองนายกฯและรัฐมนตรีหลายคนมาลงพื้นซึ่งทุกคนมาจากหลายพรรคร่วมรัฐบาลนี่คือประชาธิปไตยที่แท้จริงที่มาจากหลายภาค วันนี้ยังทำงานได้เดินหน้าไปเดินหน้าไปให้ได้ก่อนสถานการณ์มันบีบรัดพวกเราเหลือเกินเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินด้วยความเหมาะสมร่วมมือกันไม่ขัดแย้ง

ตนถือว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ประเทศชาติสำคัญที่สุดประชาชนฉะนั้นอย่าให้ใครมาทำให้เกิดความวุ่นวายตนพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดจากสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเต็มที่ต้องอยู่บนพื้นฐานความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและมีเสถียรภาพของรัฐบาล

เร่งออกหมายจับ4แกนนำม็อบ

ทั้งนี้มีรายงานว่า การดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำ การชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่มีการออกหมายจับไป 15 ราย และมีการจับกุมแล้ว 11 ราย ยังเหลืออีก 4 ราย ส่วนหมายเรียกอีก 15 ราย ยังไม่มีการรับการประสานและมาพบพนักงานสอบสวนเช่นกัน

ส่วนกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนถึงขณะนี้ำตำรวจ ยังไม่พบว่ามีการกระทำความผิดที่เข้าข่ายตามมาตรา 116 เป็นเพียงความผิดเล็กน้อย จึงอาจเชิญตัวมาเพื่อพูดคุยหรือทำความเข้าใจ เช่นเดียวกับนายอานนท์ นำภาและนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ที่ตำรวจยื่นเพิกถอนการประกันตัว ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 3 ก.ย.นี้ จากการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของฝ่ายความมั่นคงจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีการพยายามใช้ความรุนแรง จึงไม่กังวลใดๆ กับการชุมนุม

“ไมค์”โผล่ชูป้ายประท้วงนายกฯ

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์  และคณะกำลังเยี่ยมชมตลาดสินค้าครบวงจรเทศบาลบ้านเพ(ตลาด100เสา) ปรากฏว่านายภาณุพงศ์ หนึ่งในแกนนำคณะประชาชนปลดแอกได้มาถือป้ายที่มีข้อความว่า“ถมทะเล1,000ไร่ชาวระยองได้อะไร” พร้อมเรียกร้องให้ทำอีไอเอใหม่และขอทวงถามเรื่องการถมทะเลด้วยว่าการอนุมัติดังกล่าวจะทบทวนได้หรือไม่

ทำให้ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบพยายามเข้าชี้แจง ถึงกรณีหมายจับก่อนเข้าจับกุมตัว นายภาณุพงศ์ ขึ้นรถตู้เพื่อนำตัวไปที่ สภ.เพ

“รุ้ง”โวยตร.เรียกแจงแต่ไร้หมาย

ด้านเฟสบุ๊คน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำ นักศึกษาที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีธรรมศาสตร์จะไม่ทนได้โพสต์ภาพหนังสือคณะกรรมการรวบรวมและสรุปข้อเท็จจริงกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2563 ได้เรียกเข้าไปชี้แจง พร้อมข้อความระบุว่า “ขนาดหมายเรียกจากสน.หนูยังไม่ไป คุณพี่คิดหรอคะว่าวันนี้หนูจะไปให้สอบสวนปากบอกว่าดินแดนแห่งเสรีภาพ แต่พอเราใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง กลับต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวน นี่หรือ มหาวิทยาลัยที่มีประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางการเมืองมาอย่างยาวนาน กินบุญเก่าจริงๆ”

เครือข่ายรามนักบุกทำเนียบ1ก.ย.

กลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยโพสต์เฟสบุ๊คระบุว่า วันที่24ส.ค.ก็ถือว่าครบ10วันตามที่เครือข่ายฯได้ให้เวลากับรัฐบาลหากแต่ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนและไม่มีความคืบหน้าจากรัฐบาลแต่อย่างใด

ทางเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยจึงขอเชิญชวนพี่น้องนักเรียนนักศึกษาและประชาชนไปทวงถามถึงความคืบหน้าจากรัฐบาลในวันที่1ก.ย.2563ณทำเนียบรัฐบาลเวลา13.00น.เป็นต้นไป

ร้อง109ร.ร.จำกัดสิทธินร.

ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กลุ่มภาคีนักเรียนแห่งประเทศไทย นำโดย นายนฤเบศน์ รักษ์วิจิตร ประธานสูงสุดประจำ Uncommon International Group ยื่นหนังสือต่อ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เกี่ยวกับข้อเสนอด้านมาตรการการรับมือกับสถานการณ์ ด้านการคุกคามบุคลากรทางการศึกษา และความไม่โปร่งใสของข้อมูล โดยมี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ คณะทำงาน รมว.ศธ.และคณะรับเรื่องแทน

โดยนายนฤเบศน์ กล่าวว่า ทางกลุ่มได้รับเสียงสะท้อนจากเพื่อนนักเรียนจำนวนมากว่า หลังจากเด็กออกมาแสดงความเห็นทางการเมือง ก็ถูกข่มขู่ เช่น ขู่จะตัดคะแนน ตัดทุนการศึกษา มากกว่า 100 โรงเรียน  จึงอยากเรียกร้องให้ ศธ.ออกมาตรการที่จะปกป้องนักเรียนที่ออกมาแสดงความคิดเห็น โดยขอความชัดเจนของมาตรการดูแลความปลอดภัยของเด็ก ภายในวันที่ 27 ส.ค.หรือให้ได้ความชัดเจนภายใน 3 วันนี้ เพื่อพิสูจน์ว่า ศธ.เป็นผู้นำทางการศึกษาอย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ในเอกสารที่เครือข่ายนำมายื่น ยังระบุถึงโรงเรียน 109 แห่งที่มีการดำเนินการในลักษณะตามที่กล่าวอีกด้วย