หุ้นสหรัฐปิดบวกส่วนใหญ่ แม้ 'ดาวโจนส์' ร่วง 60 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันอังคาร (25 ส.ค.) แม้ดาวโจนส์ปิดลดลงจากแรงฉุดของหุ้นแอ๊ปเปิ้ลและโบอิง แต่เอสแอนด์พี 500 และแนสแด็กปิดแตะนิวไฮอีกครั้ง ได้แรงหนุนจากพัฒนาการเชิงบวกเกี่ยวกับการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ลดลง 60.02 จุด (0.2%) ปิดที่ 28,248.44 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 12.34 จุด (0.36%) ปิดที่ 3,443.62 จุด ส่วนดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 86.75 จุด (0.76%) ปิดที่ 11,466.47 จุด
เอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก ทำสถิติสูงสุดเป็นประว้ติการณ์รอบใหม่ จากพัฒนาการเชิงบวกในประเด็นการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง และความคืบหน้าครั้งใหม่ในด้านการแพทย์สำหรับต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่โควิด-19
ขณะที่หุ้นของ "แอ๊ปเปิล อิงค์" กลายเป็นตัวฉุดแรงที่สุดของทั้ง 3 ดัชนี หลังปิดลบ 0.8% และทำให้ดาวโจนส์เป็นดัชนีเดียวที่ปิดลดลงในวันอังคาร
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนจากการที่ตัวแทนการค้าในวอชิงตันและปักกิ่งออกมาย้ำถึงพันธสัญญาของพวกเขาที่มีต่อข้อตกลงการค้าทวีภาคีระยะแรก (เฟส 1) แต่ความปรารถนาดีระหว่างสองชาติตึงเครียดขึ้น ในขณะที่จีนเรียกกรณีที่สหรัฐส่งเครื่องบินสอดแนมบินผ่านเขตห้ามบินว่าเป็น "การยั่วยุอย่างโจ่งแจ้ง"
ด้าน แอสตราเซเนกา ผู้ผลิตยาสัญชาติอังกฤษ เริ่มทดลองทางคลิกนิกเฟสแรก ตัวยาที่สร้างจากแอนติบอดีสำหรับรักษาและป้องกันโควิด-19 แล้ว นับเป็นความคืบหน้าล่าสุดที่ทั่วโลกกำลังเร่งมือหาทางต่อสู้กับโรครระบาดใหญ่ของโควิด-19
ขณะที่ประเด็นเศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสำนักงานคอนเฟอเรนซ์บอร์ด ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีในเดือน ส.ค.
ส่วนรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ พบว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 13 ปีครึ่ง