สธ.เตรียมปรับเกณฑ์คัดกรองโควิด-19คนเดินทางเข้าไทย
สธ.เตรียมเพิ่มคัดกรองโควิด-19คนเดินทางเข้าไทย เจาะเลือดตรวจภูมิคุ้มกันทุกรายนอกจากตรวจหาเชื้ออย่างเดียว ชี้มีผลต่อการปรับลดเวลากักตัวสถานที่กักกัน หากพบมีภูมิฯแสดงว่าเคยติดเชื้อแล้ว อยู่ระหว่างศึกษาจำนวนวันกักตัวที่เหมาะสม
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวหลังการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโรคโควิด-19ว่า ปนะเทศไทยไม่มีรายงานการติดโควิด-19ในประเทศมาตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. -26 ส.ค. 2563 รวมกว่า 94 วัน ขณะนี้ภาครัฐจึงมีแนวคิดจะสนับสนุนฟื้นฟูการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อให้ธุรกิจ และเศรษฐกิจ รายได้ในประเทศฟื้นตัว แต่จะยังเป็นการท่องเที่ยวแบบปิด มีการจำกัด และ ปลอดภัย เน้นในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ระบาดน้อย เข้ามาใช้บริการการแพทย์ ท่องเที่ยว คาดว่าเริ่มในเดือนตุลาคมนี้
ส่วนเรื่องผลการตรวจหาซากเชื้อโควิดใน หญิง 2 คน เดินทางกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมาตรวจร่างกายที่รพ.รามาธิบดี เพื่อต้องการไปทำงานต่างประเทศ ผลปรากฎพบเป็นซากเชื้อในร่างกาย 10 % ในหญิงคนที่ 1 ชาวจ.ชัยภูมิ และ 20 %ในหญิงคนที่ 2 ชาวจ.เลย ซึ่งเชื้อไม่สามารถแบ่งตัวได้จึงไม่แพร่เชื้อต่อ และแพทย์ได้ให้กลับบ้านแล้วเมื่อวันที่ 26 ส.ค.2563 และส่วนหญิงเดินทางกลับอินเดียก็มีการพบเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการ และผลการตรวจเชื้อครั้งแรกไม่เจอ แต่ตรวจครั้งที่ 2 พบเชื้อ โดยกลับถึงไทยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. แต่เริ่มมีอาการมาตั้งแต่ วันที่ 1 ส.ค.ที่อินเดีย จึงคาดว่าอาจมีการป่วยมาก่อนเข้าไทย
“เตรียมปรับเพิ่มการตรวจคัดกรองในสถานที่กักกัน(State Quarantine)ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งจากเดิมตรวจหาเชื้อจากสารคัดหลั่ง ด้วยวิธี RT-PCR แล้ว จะมีการเพิ่มตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งจะทำให้ทราบว่าผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยแต่ละคน เคยมีประวัติการป่วยมาก่อนหรือไม่ หากเคยมีการป่วย ก็อาจมีการพิจารณา ลดการอยู่ใน สถานที่กักกันลงเหลือเวลาครึ่งหนึ่งจาก 14 วัน ก็อาจเป็น 7 วัน แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาวันที่เหมาะสมในการกักตัวกรณีผู้ที่มีภูมิคุ้มกันแล้วอีกครั้ง”นพ.โสภณกล่าว