'หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต' เสริมรากแก้ว ผู้พิการบนใบหน้า

'หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต' เสริมรากแก้ว ผู้พิการบนใบหน้า

กลุ่มบริษัทกัลฟ์ สนับสนุนทุนการศึกษาในโครงการ "หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต" ต่อเนื่อง 4 ปี (2563-2566) รวม 5 ล้านบาท แก่ผู้พิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ เสริมรากแก้วทางการศึกษา เปิดโอกาสเรียนถึงปริญญาเอก

ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ถือเป็นศูนย์เฉพาะทาง ด้านการแก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ (Craniofacial Deformities) แห่งแรกในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2529 ปัจจุบัน มีผู้ป่วยมากกว่า 3,000 ราย มีผู้ป่วยส่งต่อมาจากสถาบันทางการแพทย์ทั่วประเทศ

เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญกว่า 12 สาขา ในการประเมิน วินิจฉัย และรักษาแบบสหสาขาวิชาชีพ (Muttidisciplinary Approach) อาทิ ศัลยแพทย์ตกแต่ง ประสาทศัลยแพทย์ กุมารแพทย์ ทันตแพทย์จัดฟัน แพทย์ทางหู คอ จมูก จักษุแพทย์ รังสีแพทย์ จิตแพทย์ นักจิตวิทยา ฯลฯ โดยให้การรักษาฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย

159853421075

ศ.กิตติคุณ นพ.จรัญ มหาทุมะรัตน์ หัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ อธิบายว่า ปัจจุบันผู้ป่วยที่มีความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ อาทิ ปากแหว่งเพดานโหว่ พบในเด็กแรกเกิดสัดส่วน 1 : 700 ราย โรคงวงช้างมีสัดส่วน 1 : 5,000 ราย หรือโรคที่เกี่ยวกับรอยเชื่อมของกะโหลกศีรษะเชื่อมเร็วกว่าปกติพบที่สัดส่วน 1 : 30,000 ราย หากมีความผิดปกติทางใบหน้าร่วมกับนิ้วติดกันจะอยู่ที่สัดส่วน 1 : 40,000 ราย

นพ.นนท์ โรจน์วชิรนนท์ รองหัวหน้าศูนย์สมด็จพระเทพรัตนฯ กล่าวเสริมว่า ส่วนใหญ่ผู้ป่วยกลุ่มนี้พิการเพียงใบหน้า แต่สมองและความสามารถยังมีศักยภาพ ยกเว้นการรักษาช้าเกินไป เช่น โรครอยต่อกะโหลกศีรษะเชื่อมติดก่อนกำหนด ทำให้สมองโตไม่ได้ ทั้งนี้ ความพิการดังกล่าวป้องกันไม่ได้ 100% เพราะเกิดจากสาเหตุหลายอย่าง หากจะมีบุตรให้ วางแผนครอบครัว ปรึกษานักพันธุศาสตร์ และใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วย ก่อนตั้งครรภ์ต้องมีการบำรุงล่วงหน้า 1-3 เดือน เป็นมาตรฐานสากล รวมถึงสภาพแวดล้อมที่อยู่ก็มีส่วนเช่นกัน

159853421145

ย่างไรก็ตามการรักษาอย่างทันท่วงทีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้มีฐานะค่อนข้างยากจน ดังนั้น การส่งเสริมด้านทุนทรัพย์ทางการศึกษา จึงเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ ที่จะช่วยชับเคลื่อนพัฒนาชีวิตที่สมบูรณ์ของเด็กๆ เหล่านี้ได้

ล่าสุด บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้มอบทุนการศึกษาภายใต้โครงการ “หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต” แก่ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ เพื่อให้ทางคณะทำงานและนักสังคมสงเคราะห์ บริหารจัดสรรให้ผู้ป่วยในความดูแลของศูนย์ฯ ตามความหมาะสมโดยวิเคราะห์จากฐานะและความจำเป็นของผู้ป่วยแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป (Need-based Scholarship)

โดยได้สนับสนุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 ผ่านเงินสนับสนุน มอบสิ่งของแก่ผู้ป่วย และร่วมเป็นอาสาสมัครในโครงการคลินิกเคลื่อนที่แบบสหสาขาวิชาชีพของศูนย์ฯ นำร่องให้ทุนการศึกษาไปแล้วในปี 2562 จำนวน 30 ทุน

159853421063

ครั้งนี้เป็นการมอบทุนต่อเนื่อง 4 ปี (2563-2566) รวมจำนวนเงินกว่า 5 ล้านบาท โดยในปีนี้มอบให้จำนวน 51 ทุน มูลค่ารวมกว่า 600,000 บาท ตามเจตนารมณ์ของกลุ่มบริษัทฯ ภายใต้การบริหารของ "สารัชถ์ รัตนาวะดี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ สานพันธกิจเพื่อสังคมภายใต้แนวคิด “Powering the Future, Empowering the People” ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม

159853439125

สิตมน รัตนาวะดี” ตัวแทนบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าน้องๆ เหล่านี้ยังมีความสามารถและอนาคตยังอีกไกล ความตั้งใจของเรา คือ อยากจะให้น้องๆ มีความสุข เท่าเทียม แม้ร่างกายจะไม่ 100% แต่เชื่อว่าจิตใจเขาเต็ม 100 ทุกคนแน่นอน กลุ่มบริษัทกัลฟ์ จะส่งเสริม และเติมเต็มทางการศึกษาจนถึงปริญญาเอกหากต้องการโอกาส อยากให้ทุกคนเรียนจบมีงานทำและประสบความสำเร็จในชีวิต

“บุญชัย ถิราติ” กรรมการบริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่าโครงการนี้เป็นโครงการระยะยาวในช่วงดำเนินการ จะมีการประเมินผลเป็นระยะ โดยการคัดเลือกจะทำงานร่วมกับแพทย์และนักสังคมสงเคราะห์เพื่อประเมินว่าครอบครัวมีความเดือดร้อนอย่างไร ประเมินตัวเด็กว่ามีความสามารถทางการเรียนอย่างไร หวังว่าโครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มครอบครัวน้องๆ และหากมีโครงการอื่นที่เราสามารถช่วยเหลือเพิ่มเติมได้ กลุ่มบริษัทกัลฟ์ ยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการคืนประโยชน์ต่อสังคม

159853421258

ณัฐนนท์ ประมูลศรี” วัย 16 ปี ชั้นปวช.ปี 1 วิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี ซึ่งทำการรักษาที่ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ ตั้งแต่อายุ 4 เดือน และเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับทุน บอกเล่าถึงความฝันว่าอยากจะเป็นครูสอนนาฏศิลป์ เพราะชอบดนตรีไทยประเภทเครื่องหนัง รำไทย และโขน และได้รับการสนับสนุนจาก "ประกอบ เมฆสำลี” ผู้เป็นแม่ให้เรียนดนตรีไทย ตามความชอบ เพื่อจะได้สานฝันในอนาคต ซึ่งปัจจุบันค่าเทอมจะอยู่ที่ราว 4,000 บาท