เมกะเทรนด์ 'อายุยืน-โควิด' หนุนตลาดสุขภาพโต 6.5 หมื่นล้าน
W9 Wellness Center พร้อมกับกระแสสังคมผู้สูงอายุ สอดรับกับการใช้ชีวิตแบบ New normal คาดมูลค่าตลาดสุขภาพโตขึ้น 6.30 % ในปีนี้ จากเทรนด์สร้างสมดุลความสุขชีวิต 4 ด้าน ได้แก่ สังคมสูงวัย อายุยืน โภชนาการ และความสนใจสุขภาพเชิงรุก รวมถึงการระบาดโควิด-19
ปัจจุบัน มูลค่าตลาดสุขภาพโดยรวมอยู่ที่ 65,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้มูลค่าตลาดรวมจะโตขึ้น 6.30 % โดยมาจากเทรนด์ Wellness หรือเทรนด์การสร้างสมดุลความสุขชีวิต 4 ด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เทรนด์สังคมสูงวัย เทรนด์อายุยืนด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี เทรนด์โภชนาการเฉพาะบุคคล และเทรนด์ผู้บริโภคสนใจและใส่ใจสุขภาพเชิงรุก ประกอบการเกิดโรคอุบัติใหม่เชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นอีกตัวแปรสำคัญที่เข้ามากระตุ้นผู้คนให้หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
โดยสถิติผู้เข้ารับการปรึกษาที่ W9 Wellness Center ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic) โรงพยาบาลพระรามเก้าส่วนใหญ่กว่า 80-90% มาใช้บริการจาก 6 ปัญหาสุขภาพ ได้แก่ 1. ปัญหานอนไม่หลับและมีความเครียด 19.34% 2. ปัญหาผิวและริ้วรอย 19.34% 3. ปัญหาน้ำหนักตัว 18.4% 4. การเสริมภูมิคุ้มกัน 15.57% 5. ปัญหาฮอร์โมน 14.62% และ 6. ความกังวลเกี่ยวกับมะเร็ง 12.73%
นอกจากนี้ ในช่วงที่ไวรัสโควิด–19 แพร่ระบาด พบสถิติคนไทยมาปรึกษาเกี่ยวกับการเสริมภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นเป็น 20.65% แสดงให้เห็นว่าคนไทยตระหนักถึงการดูแลสุขภาพมากขึ้น และมาปรึกษาด้วยปัญหานอนไม่หลับและมีความเครียดเพิ่มขึ้นเป็น 20.05% สองปัญหาสุขภาพขยับขึ้นมาเป็น 2 อันดับแรกที่ผู้มาใช้บริการเข้ามารับคำปรึกษาในช่วงนี้
นายแพทย์พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมW9 อธิบายว่ามี 4 ปัจจัยที่ทำให้ ตลาดสุขภาพ (Wellness)หรือเทรนด์การสร้างสมดุลความสุขชีวิตทุกด้านเติบโตขึ้น ประกอบด้วยเทรนด์สังคมสูงวัย ปัจจุบันประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ โดยคาดว่าในปี 2564 จะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนถึง 20% ของจำนวนประชากรในประเทศ ในขณะที่ประชากรวัยทำงานมีอัตราลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับอัตราการเกิดใหม่
เทรนด์อายุยืนด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ผู้คนสุขภาพดีอายุยืน สามารถใช้ร่างกายได้ดีตามวัย สามารถทำงานและช่วยเหลือตัวเองได้ โดยได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ความเป็นอยู่ และจิตใจของตัวเอง เนื่องจากตระหนักว่าการมีอายุยืนแต่อุดมไปด้วยโรคเป็นสิ่งไม่พึงปรารถนา เพราะจะเป็นภาระต่อครอบครัวและสังคม เทรนด์โภชนาการเฉพาะบุคคล คนสมัยนี้สนใจหาความรู้และให้ความสำคัญกับการดูแลโภชนาการเพิ่มมากขึ้น เลือกรับประทานอาหาร สร้างความสมดุลเฉพาะบุคคลมากขึ้น
และผู้บริโภคสนใจและใส่ใจสุขภาพเชิงรุกโดยเฉพาะคนยุคใหม่กลุ่มยุคมิลเลนเนียล และเจเนอเรชั่นวาย มีการหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเชิงลึก ทั้งในเรื่องการบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนัก ฯลฯ มากขึ้น ประกอบกับปัญหามลภาวะฝุ่น PM 2.5 และการเกิดโรคอุบัติใหม่เชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นอีกตัวแปรสำคัญที่เข้ามากระตุ้นผู้คนให้หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามการสร้างชีวิตที่สุขสมดุล เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีจำเป็นต้องมีการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับทางเลือกของการมีสุขภาพที่ดี เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตที่หลายหลาย การมุ่งเน้นดูแลสุขภาพในภาพรวมของแต่ละบุคคล โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางการแพทย์มาประยุกต์ใช้กับการป้องกันสุขภาพเชิงรุก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพ รวมไปถึงการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพที่ได้ผลดียิ่งขึ้น เพื่อลดโอกาสเจ็บป่วยและลดการใช้ยา รวมทั้งการดูแลที่ออกแบบเฉพาะบุคคลตามความจำเป็น
"ในช่วง 1 ปีที่เปิดให้บริการพบว่าผู้ที่มาใช้บริการกว่า 80% มาใช้บริการเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ โดยเบื้องต้นพบสาเหตุจากการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล ทั้งจากการรับประทานอาหาร การทำงานหนัก การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดสะสม ฯลฯ ซึ่งล้วนส่งผลต่อการทำงานที่ผิดปกติของระบบการทำงานพื้นฐานต่าง ๆ ของร่างกาย จนอาจเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ในทางการแพทย์มีการดูแลสุขภาพ 2 รูปแบบ คือ การดูแลสุขภาพเชิงรับ คือเมื่อมีอาการป่วยแล้วจึงเข้ามาปรึกษาและทำการรักษา และการดูแลสุขภาพเชิงรุก หรือเชิงป้องกันโรค ด้วยการดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ และก่อนที่ร่างกายจะส่งสัญญาณหรือก่อนที่จะเริ่มมีปัญหาสุขภาพ”นายแพทย์พิจักษณ์ กล่าว
ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมด้านสุขภาพของคนไทยเปลี่ยนไป และเป็นปัจจัยเร่งให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น จากข้อมูลจีไอเอสคาดว่าตลาด Health and Wellness จะโตถึง 6.30% จากมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด 65,000ล้านบาท ทั้งนี้ 1 ปีที่ผ่านมา W9 มียอดผู้มาใช้บริการประมาณ 600-700 ราย รายได้ประมาณ 20 ล้านบาท คา่ดว่าปีหน้า จะตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้นเท่าตัว
“ขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์” กรรมการบริหารศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมW9 อธิบายว่าทิศทางธุรกิจ Wellness จะโตไปพร้อมกับกระแสสังคมผู้สูงอายุ และสอดรับกับการใช้ชีวิตแบบ New normal ที่ต้องดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น โดยได้จากผลสำรวจของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ชี้ว่าคนไทย 45.39% หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ เพื่อดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงและปรึกษาแพทย์อยู่เสมอ ทำให้เห็นถึงโอกาสการเติบโตในตลาดกลุ่มนี้
ประกอบกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุค New normal ในปัจจุบันและอนาคต จะใช้บริการ Wellness ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic) ที่ประกอบด้วย 4 Ps คือ Preventive มุ่งเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรค Predictive ใช้การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการระดับเซลล์ โดยคำนึงถึงปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม นำมาวิเคราะห์หาต้นตอปัญหาที่แท้จริง Personalized ออกแบบสุขภาพเฉพาะบุคคล โดยใช้ข้อมูลเชิงลึก และ Participatory โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ที่เน้นการมีส่วนร่วมระหว่างแพทย์กับคนไข้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการดูแลรักษามากที่สุด
อย่างไรก็ดีการสร้างความสมดุลให้สุขภาพจะอยู่ภายใต้แนวคิด “Healthitude” เป็นการยกระดับ “การป้องกัน” และดูแลสุขภาพผ่านการตรวจสุขภาพเชิงลึก ให้ทราบถึงความสมดุลระบบพื้นฐานที่สำคัญของร่างกาย ผ่านการตรวจสุขภาพเชิงลึก ทั้งด้านพันธุกรรม ฮอร์โมน วิตามิน และสารพิษ พร้อมให้คำแนะนำในการช่วยหาสมดุลการใช้ชีวิตเฉพาะบุคคล ปรับเปลี่ยนทัศนคติว่าการดูแลสุขภาพก่อนเกิดโรคเป็นเรื่องที่ทำได้เอง ทำได้ง่าย และทำได้จริง เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนทั้งร่างกายและจิตใจ