19 ภาคีเกษตร หนุนยกเลิกแบนพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอส
19 ภาคีเกษตร หนุน “เฉลิมชัย”ยื่น “สุริยะ”ยกเลิกแบนพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอส พร้อมโต้กลับ “มนัญญา”นำสารกลูโฟซิเนต มาใช้ทดแทนปลอดภัยจริงหรือ ร้องกระทรวงสาธารณสุขลักลั่นให้นำเข้าสินค้าที่มีการใช้พาราควอตได้
นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย และผู้แทน 19 ภาคีเกษตร เปิดเผยว่า เกษตรกรกลุ่มพืชเศรษฐกิจ พร้อมสนับสนุน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธาน ในการยกเลิกแบนพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอส ซึ่งในตอนนี้การจับกุมและปรับเงินเกษตรกรมีผลบังคับใช้แล้ว จึงขอให้นายเฉลิมชัยยึดถือประโยชน์ของเกษตรกรและประเทศชาติเป็นสำคัญ ความเสียหายของเกษตรกรเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการไปใช้สารทางเลือกที่ราคาสูง ฆ่าหญ้าไม่ตายแต่พืชประธานตายทั้งอ้อยและมันสำปะหลัง ผลผลิตเสียหาย ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
นายภมร ศรีประเสริฐ และกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังโคราช กล่าวสนับสนุนว่า เกษตรกร ผิดหวังกับข้าราชการกรมวิชาการเกษตรและน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ไม่มีความรู้และเมินเสียงเกษตรกร เพราะเกษตรกรเดือดร้อนจึงต้องออกมาคัดค้าน เกษตรกรมองเห็นผลกระทบที่ชัดเจน ทุกพืชจำเป็นต้องใช้สารพาราควอตตลอดทั้งปี อย่ามาบอกว่าของบจัดทำงบประมาณฉุกเฉิน เพราะเป็นความคิดล้าสมัยของการเมืองแบบโบราณ เป็นการใช้ภาษีประชาชนอย่างสิ้นเปลือง เกษตรกรผู้ผลิตมันสำปะหลังไม่มีสิทธิ์ใช้สารพาราควอต แต่กลับพบว่ากระทรวงสาธารณสุขและกรมปศุสัตว์กำหนดให้นำเข้าวัตถุดิบที่ปนเปื้อนพาราควอตได้ จงใจทำร้ายเกษตรกรไทย
นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า น.ส.มนัญญา พูดว่าจะเอาสารพิษกลับมาอีกทำไม ขอถามท่านว่า สารเคมีตัวไหนไม่เป็นสารพิษ สารชีวภัณฑ์มีการบุกตรวจจับกุมโดยดีเอสไอ และกรมวิชาการเกษตร ก็พบว่ามีสารพาราควอต และไกลโฟเซตปนอยู่ สารกลูโฟซิเนตในสหภาพยุโรปก็แบนไปแล้ว สิ่งที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำให้ใช้ล้วนแต่เป็นสารพิษ เพราะฉะนั้นท่านต้องแบนกลูโฟซิเนต ไกลโฟเซต ไปด้วยเช่นกัน
“หากนางสาวมนัญญา รวมถึงมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค องค์กรต่างๆ ห่วงใยสุขภาพคนไทยจริง ก็ขอให้ช่วยฯ ไปคุยกับ คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศหยุดการนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบทางการเกษตรที่มีสารพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอสทันที ต้องไม่มีการตกค้างสารดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น 0.01 0.02 อะไร ก็ต้องไม่มี ไม่ควรปรับค่าเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนธุรกิจ และไม่มีการผ่อนปรนถึงเดือนมิถุนายน 2564 ไม่เช่นนั้น จะเป็นการปฏิบัติสองมาตรฐาน ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน เพราะเมื่อแบนในประเทศแล้ว สินค้านำเข้าก็ไม่ควรจะมีการใช้สารทั้งสองชนิด”
นายเติมศักดิ์ บุญชื่น ประธานคณะกรรมการด้านพืชไร่ สภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวสอดคล้องกันว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปฏิบัติสองมาตรฐานหากแบนการใช้สารพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอสในประเทศ สินค้านำเข้าก็ไม่ควรที่จะตกค้างสองสารเคมีดังกล่าว และควรแบนเช่นเดียวกัน
“ข้อมูลของสมาคมนักวิชาการอ้อยและน้ำตาล ที่เก็บตัวอย่างวัตถุดิบและสินค้าที่มีการใช้พาราควอตในประเทศ ก็ตรวจไม่พบสารพาราควอตตกค้างเช่นกัน คำกล่าวอ้างของน.ส.มนัญญา และกระทรวงสาธารณสุขที่ห่วงใยสุขภาพคนไทยและผู้บริโภคจึงฟังไม่ขึ้น เป็นเพียงคำกล่าวอ้างเพื่อเอื้อนายทุน หรือหากกระทรวงสาธารณสุขปรับกฎระเบียบว่า สินค้านำเข้าต้องตรวจไม่พบสารพาราควอต และคลอร์ไพรีฟอส ดังนั้นการที่วัตถุดิบและสินค้าในประเทศตรวจไม่พบสารตกค้างทั้ง 2 ชนิด เกษตรกรไทยก็ต้องมีสิทธิ์ใช้สารทั้งสองชนิดได้เช่นกัน”
ทั้ง 19 องค์กรเกษตรกร ขอสนับสนุน และสรรเสริญนายเฉลิมชัย ที่กล้าหาญ ส่งเรื่องถึงคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้ทบทวนการยกเลิกสารพาราควอตและคลอร์ไพรีฟอส กล้าปลดแอกเกษตรกรจากการจำคุกสูงสุด 10 ปี และปรับสูงสุด 1 ล้านบาท ขอเพียงให้ท่านลงมือทำ เกษตรกรกว่า 10 ล้านคนทั่วแผ่นดินพร้อมสนับสนุน และเราจะจดจำท่านไปอีกนาน