"สมุนไพร"เพิ่มรายได้ ดึงลูกหลานกลับบ้าน

"สมุนไพร"เพิ่มรายได้ ดึงลูกหลานกลับบ้าน

“สมุนไพรไทย”เป็นสินค้าที่สร้างรายได้ให้กับคนไทยอย่างมาก ไม่เฉพาะที่เป็นยา แต่ยังนำมาแปรรูปในหลากหลายผลิตภัณฑ์ทั้งเสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สปา ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นโอกาสของผู้ประกอบการรายย่อยและวิสาหกิจชุมชนในการนำภูมิปัญญาไทยมาต่อยอดธุรกิจ

ระหว่างพิธีเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 17 พ.ศ.2563 อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) กล่าวถึงทิศทางของสมุนไพรไทยว่า นโยบายระดับชาติต้องการขับเคลื่อนด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์ทางเลือก และสมุนไพรให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ประชาชนรู้จักคุณค่า นำมาใช้ประโยชน์ และมีการวิจัยพัฒนา สร้างความเชื่อมั่น ให้เกิดการยอมรับผลิตภัณฑ์สมุนไพร สามารถแข่งขันในตลาดทั้งในและต่างประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประเทศ รวมทั้งอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาไทย โดยรัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเต็มที่

ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ไม่ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างโอกาสให้กับบริษัทเอสเอ็มอีและสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะชุมชนที่มีการรวมกลุ่มในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชน
159904337126

จิตติมา มานะไชยรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมินตรา คอสโม จำกัด หนึ่งในผู้ได้รับรางวัลในงานสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 17 เล่าว่า ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลมีการเปิดตัวมาได้เพียง 1 ปีผู้บริโภคให้การตอบรับดี การที่บริษัทเลือกมาดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและสมุนไพร เนื่องจากเห็นถึงเทรนด์ของโลกทุกคนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ให้ความสำคัญกับพืชพรรณที่เป็นธรรมชาติมากกว่าที่จะเอาสารเคมีเข้าร่างกาย จึงเริ่มต้นด้วยการปรึกษานักววิชาการที่ทำวิจัยเกี่ยวกับพืชไทย จนได้พบกับดอกไม้สีเหลือง 3 ชนิดมาทำเป็นเซรั่มทาใบหน้า คือ ราชพฤกษ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ดาวเรืองช่วยยับยั้งสารที่เป็นต้นเหตุหลักของความหมองคล้ำและจุดด่างดำ และดอกขี้เหล็กช่วยทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ

“เชื่อว่าผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรยังเติบโตได้อีกมาก ทั้งตลาดภายในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลจากภาครัฐก็จะย่างการันตีให้กับสินค้านั้น อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นบริษัทเอสเอ็มอี อยากให้ภาครัฐสนับสนุนมากขึ้น ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์สินค้าของเอสเอ็มอี เพราะเป็นกลุ่มบริษัทขนาดไม่ใหญ่ ไม่ได้มีกำลังมากพอที่จะทำการประชาสัมพันธ์ได้มากนัก หากรัฐช่วยส่งเสริมจุดนี้ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค สินค้าเอสเอ็มอีก็จะโตได้มากขึ้น” จิตติมากล่าว

เช่นเดียวกับ ศิรินันท์ สารมณฐี ผู้จัดการวิสาหกิจชุมชนชีววิถีตำบลน้ำเกี๋ยน อ.ภูเพียง จ.น่าน ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ได้รางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพร OTOP ดีเด่นระดับชาติ บอกว่า ชุมชนมีการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนมาตั้งแต่เมื่อ 14 ปี โดยเห็นว่าในชุมชนมีการปลูกและใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันเองจำนวนมาก ตั้งใจจะผลิตเป็นสินค้าใช้ในชุมชน แต่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ทว่า ขณะนั้นกลุ่มเป็นเพียงผู้ผลิตสมุนไพรยังไม่มีองค์ความรู้รองรับมาก จึงเข้าปรึกษานักวิชาการเพื่อนำองค์ความรู้มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากขึ้น สินค้าของกลุ่มได้รับความน่าเชื่อถือ จนปัจจุบันวิสาหกิจมีสมาชิกกว่า 700 คน มีผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่หลากหลาย และได้รับโอกาสวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ และโมเดิลเทรด

“เดิมทีชาวบ้านในชุมชนมีรายได้ทางเดียวคือเป็นเกษตรกร แต่เมื่อรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน ที่มีทั้งสมาชิกที่เป็นต้นน้ำคือเกษตรกรที่ปลูกสมุนไพรอินทรีย์ กลางน้ำมีโรงงานผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมาตรฐานและปลายน้ำมีการทำตลาดขายในร้านค้าต่างๆ เป็นการนำสมุนไพรมาตอบโจทย์ลูกค้าในเมืองใหญ่ ที่สำคัญ ช่วยเพิ่มรายได้ให้แต่ละครัวเรือนหลายพันบาทต่อเดือน เมื่อกลุ่มมีการโตขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้ลูกหลานของคนในชุมชน กลับมาทำงานที่บ้านเกิดมากขึ้นผ่านการจ้างงานจากวิสาหกิจ และอนาคตมีแผนที่จะขยายตลาดให้กว้างขึ้น”ศิรินันท์กล่าว
159904339038
ศิรินันท์ ย้ำว่า จุดแข็งของผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากวิสาหกิจชุมชน คือ การที่สามารถให้คำตอบกับผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันต้องการรู้ตั้งต้นน้ำว่าวัตถุดิบที่นำมาทำผลิตภัณฑ์มาจากไหน กระบวนการผลิตและเมื่อถึงมือผู้บริโภคมีความเป็นธรรมชาติมาก และเชื่อว่าตลาดผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชนยังโตไปได้อีก เป็นโอกาสที่จะให้ชุมชนรวมกลุ่มกันดำเนินการ เพราะมีสมุนไพรที่เป็นวัตถุดิบอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องจับมือร่วมกับหน่วยงานราชการหรือนักวิจัยที่จะมาช่วยชุมชนในการพัฒนาให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพโดยมีงานวิจัยรองรั

อนึ่ง มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ครั้งที่ 17 ได้ระหว่างวันที่ 2 – 6 กันยายน 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร 10 – 12 ภายในงานมหกรรมฯ แบ่งเป็น 4 โซนกิจกรรม คือ โซนวิชาการ โซนภูมิปัญญา โซนบริการ มี และโซนผลิตภัณฑ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม0 2149 5696, 0 2149 5649 หรือเฟซบุ๊ค มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ หรือWebsite : http://natherbexpo.dtam.moph.go.th