'สตาร์ทอัพ' ร้องนายก ผลัก 3 เรื่อง แก้เศรษฐกิจย่ำอยู่กับที่
แก้ภาษี ปรับกฎหมาย เพิ่มการลงทุน หากต้องการฟื้นเศรษฐกิจผ่านกลไกสตาร์ทอัพ และเทคโนโลยี หากรู้แล้วไม่ทำ ประเทศไทยจะย่ำอยู่กับที่ และอาจไม่มีโอกาสที่สอง
กลุ่มสตาร์ทอัพ ออกหนังสือเรียกร้องนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ "สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์" แก้ไข 3 เรื่องสำคัญ โดยมีข้อความว่า
รัฐบาลใช้เวลาหลายปีในการสร้างสตาร์ทอัพหน้าใหม่ ผ่านโครงการ Startup Thailand และ กิจกรรมมากมาย ทำให้ประเทศไทยตื่นตัวเรื่องสตาร์ทอัพ มีผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี เพิ่มขึ้นมากมาย ซึ่งมีคนเก่ง และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะทำให้ประเทศไทย มีแสงสว่างปลายอุโมงค์ มีศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว แต่เมื่อเกิดภาวะโควิด-19 ต่อเนื่องมาถึงวิกฤตเศรษฐกิจ รัฐกลับเมินเฉย ปล่อยให้สตาร์ทอัพต้องล้มหายตายจากไปต่อหน้าต่อตา ทั้งที่ยื่นเรื่องการแก้ไข 3 เรื่องสำคัญ คือ
1.ภาษี
2.กฎหมาย
3.การลงทุน
ที่จะทำให้ประเทศไทยไปต่อได้ และ มีจุดแข็งในอนาคต แต่กลับไม่มีใครสนใจ ปล่อยให้ข้อเสนอขึ้นรา และสตาร์ทอัพหมดลมหายใจไปรายวัน เพราะไม่มีนักลงทุนอยากมาลงทุน ในขณะที่สิงค์โปร์ยังคงเปิดกว้างรับสตาร์ทอัพมีอนาคต ย้ายฐานไปสิงค์โปร์กันหมด ปัจจุบันมีสตาร์ทอัพไทยจำนวนไม่น้อย ต้องย้ายไปจดทะเบียนบริษัทที่ต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ เพราะจะทำธุรกิจให้อยู่รอดก็ต้องเลือกทางที่ดีที่สุด ถ้ามีนักลงทุนสนใจก็จะชักชวนให้ไปจดทะเบียนที่สิงคโปร์ ซึ่งมีโอกาสการลงทุน การสนับสนุนจากรัฐ และได้ราคาที่ดีกว่า ดังนั้นหากรัฐบาลไทยสามารถแก้ไข ปรับเปลี่ยน กฎระเบียบและการสนับสนุนให้ดีขึ้น สตาร์ทอัพไทย จะได้ไม่ต้องย้ายไปต่างประเทศจึงได้เวลาลงมือทำ
วอนนายกฯขับเคลื่อนก่อนสายเกินไป รัฐต้องเลิกบอกว่า มีแล้ว ทำแล้ว ให้ไปถามบีโอไอ แต่รัฐต้องขับเคลื่อนจริงจัง เทียบสิงคโปร์ และต้องทำดีกว่า ถึงจะสำเร็จ ซึ่งความหวังต้องฝากไว้ที่ท่านนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ "สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์" ว่าจะดำเนินการได้รวดเร็วเพียงใด