DAAT แนะ เอเยนซี่ต้องติดอาวุธ ร่วมหัวจมท้ายกู้ยอดขายให้ลูกค้า
การตามกระแสหรือเทรนด์ให้ทัน เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักการตลาด เพื่อไม่ให้ตกขบวนพลาดเทคนิค แนวโน้มที่กำลังมาแรงในตลาด ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมผู้บริโภค โลกเทคโนโลยี ที่จะทรงอิทธิพลสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต
สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย)หรือ DAAT นอกจากจะแถลงการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลหมาดๆแล้ว ยังได้แชร์เทรนด์ที่นักการตลาด เอเยนซี่ต้องทำเพื่อช่วยลูกค้าในการสร้างแบรนด์และยอดขายด้วย ซึ่งทั้งนายกสมาคมฯ และกรรมการสมาคมฯ ให้ข้อมูลดังนี้
ประเดิมที่ ศิวัตร เชาวรียวงษ์ นายก DAAT หยิบหัวข้อ Helping our clients sell มาเล่า วิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้การทำงานท้าทายอย่างมากท่ามกลางเศรษฐกิจอยู่ระหว่างการฟื้นตัว แนวโน้มกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง แต่แรงกดดันการสร้าง “ยอดขาย” จากบริษัทหรือลูกค้ายังคงมี ดังนั้นการทำงานของเอเยนซี่กับลูกค้าเจ้าของแบรนด์สินค้าและบริการจึงต้องร่วมมือกันฝ่าโจทย์เหล่านี้ให้ได้
เมื่อ 6 เดือนหลัง ลูกค้าโฟกัสเรื่องยอดขาย ควบคู่การใช้จ่ายเงินโฆษณาที่คุ้มค่า การทำงานวันนี้ เอเยนซีจึงรับทั้งการวางเข็มทิศการตลาดและเป้าหมายยอดขายช่วยลูกค้า การวางหมากรบการตลาดยังลงลึกขึ้น ส่วนประสมทางการตลาด(4Ps) เดิมๆไม่พอ วันนี้เอเยนซีต้องคิดโค้ชลงลึก เช่น ช่วยตั้งราคาสินค้าที่เหมาะสม สำรวจราคาที่แข่งขันกันในตลาดในแต่ละช่องทางขาย หาไอเดียใหม่ออกสินค้า จนเห็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ถี่ขึ้นทั้งรุ่นลิมิเต็ด เอ็กซ์คลูสีฟ การรวมพลังพันธมิตร(Collaboration)กระตุ้นการซื้อฯ
ตัวอย่างการช่วยลูกค้าช่วงโควิด ธุรกิจค้าปลีกถูกล็อกดาวน์ค้าขายไม่ได้ ทำให้ต้องรุกช่องทางอีคอมเมิร์ซ ซึ่งความต้องการซื้อสินค้าสูง จนทำยอดขายต่อวันสูงมากต่อเนื่อง เมื่อหาเหตุที่ยอดขายพุ่ง แบรนด์สามารถคาดการณ์ยอดขายได้ นำไปวางแผนการผลิตได้เหมาะสม หากผลิตมากต้นทุนต่อหน่วยลดลง มีผลต่อ “กำไร” จะช่วยพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “เกม” มาแรงมาก โดยเฉพาะหมู่วัยรุ่น แต่แบรนด์กลับเข้าไปทำตลาดไม่มากนัก นรินทร์ เย็นธนกรณ์ ให้มุมมองการสร้างแบรนด์ผ่านเหล่าเกมเมอร์ หรือ Build Your Brand Through Gamer ที่กลายเป็นความบันเทิงใหม่ของผู้บริโภค เพราะทั้งคนดู คนเล่นเกมในไทยมีมากกว่า 20 ล้านคน เทเวลาให้ถึง 13 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แปลงเป็นโอกาสได้มหาศาล นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ชมยูทูป 45% ให้ความสนใจคอนเทนท์ที่มีเกมอยู่ 50% เทียบเท่าการเสพดราม่า และเพลง ส่วนผู้บริโภคที่ดูอยู่ในวัย 18-35 ปี ซึ่งจะเติบโตในการจับจ่ายใช้สอย
ส่วนแพลตฟอร์มที่คอเกมเทเวลาให้คือ ยูทูบ ตามด้วยเฟซบุ๊กที่ลุยตลาดเกมไม่นาน ยังโกยยอดวิว การไลฟ์หรือสตรีมมิ่งเกมต่างๆ จากคนไทยติดท็อป 5 ของโลก ด้านบัญชีผู้ใช้งานปกติยังเปลี่ยนเป็นบัญชีเกมมิ่งเติบโตสูงมาก 85-90% จากปีก่อน ซึ่งเป็นจุดเด่นให้แบรนด์ทำการตลาดได้ ด้านทวิชท์(Twitch.TV) มียอดการเข้าชมไลฟ์เกมมากถึง 8 ล้านชั่วโมงต่อเดือน
“ผู้บริโภคใช้เวลานั่งชมคอนเทนท์ยาวๆอย่างการไลฟ์เกม ถือเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ” ทว่า การทำตลาดต้องรู้คนเก่นเกมมีทั้งเกมเมอร์ แคสเตอร์ กลุ่มใหญ่มากทำให้เกมไม่น่าเบื่อ ครีเอเตอร์ ตัดต่อเพิ่มความสนุกของเกม และสตรีเมอร์ที่เล่นเกมสดๆให้คนดู ตัวอย่างครีเอเตอร์ระดับท็อปอย่าง “ซีบิง” มีคนติดตามบนยูทูปกว่า 11.9 ล้านคน เป็นตัวเลขสูงมาก ยิ่งกว่านั้น ออกงานไหนแฟนคลับติดตามไปให้กำลังใจ สร้างสรรค์คอนเทนท์ออกมายอดรับชมหลัก “ล้านวิว” ครีเอเตอร์เหล่านี้มี “พลัง” สร้างแบรนด์ เกณฑ์ Reach กระตุ้นยอดขายได้
“เกมไม่ใช่ Niche อีกต่อไป เพราะมีผู้บริโภคมีปฏิสัมพันธ์ตลอด เป็นพื้นที่ใหม่ของสินค้าอุปโภคบริโภคในการทำตลาด เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง รับพฤติกรรมการสตรีมมิ่งตั้งแต่ 2 ทุ่ม เลิกตี 4 รวมถึงสินค้าที่เจาะเป้าหมายวัยรุ่น ยิ่งควรใช้เกมเป็นอาวุธการตลาด”
หลายปีที่ผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด(Influencer) มาแรง เพราะผู้บริโภคเลือกเชื่อคนจริงมากกว่าสิ่งที่แบรนด์ นักการตลาดสื่อสารซึ่งมุ่งเน้นขายสินค้า เอกชัย ปาริชาติกานนท์ เล่าหัวข้อ Everyone is an Influencer ยุคนี้อินฟลูเอ็นเซอร์ไม่แค่ช่วยสร้างแบรนด์ แต่ยังปั๊มยอดขายได้ด้วย ช่วงโควิดตัวอย่างแบรนด์เครื่องสำอางได้พลังผู้นำทางความคิดมาช่วยกระจายการสื่อสารของแบรนด์ แต่ยังช่วยให้รายละเอียดสินค้า และปิดการขายด้วย ส่วนแบรนด์ธนาคารพาณิชย์ชื่อดัง ใช้สรรพกำลังของพนักงานเป็นกระบอกเสียงสื่อสารแบรนด์แบบฟรีๆ(Free media)ถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ทว่า สิ่งสำคัญการใช้เครื่องมือนี้ต้องไม่ปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของอินฟลูเอ็นเซอร์ เพื่อให้สร้างคอนเทนท์สนุกสู่ผลลัพธ์การขายที่ดี
“การใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ทำตลาด แรงเดียวไม่พอ ต้องสร้างกองกำลังเป็นของตัวเอง หากแบรนด์สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคนเหล่านี้ ช่วงเวลาวิกฤติอาจช่วยเป็นกระบอกเสียงให้แบรนด์ได้”
ยุคนี้มือถือ แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นอาวุธทรงพลัง เอกชัย จึงฝากให้การทำตลาดต้องระวังหยุด!สร้างข้อความทำลายกัน(Hate speech)