‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ทรงเปิดนิทรรศการ ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 9
วันนี้ (8 ก.ย.63) เวลา 08.39 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการและพระราชทานรางวัลในงาน ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 9 ภายใต้หัวข้อ สยามเมืองยิ้ม
จัดโดย บริษัท ไทยเบฟ เวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นเวทีที่ให้เหล่าศิลปิน และผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้แสดงออกถึงช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่อันรุ่งโรจน์ รื่นเริง สะท้อนถึงบรรยากาศของความสุขความหวังความปรารถนาอันดีที่ผู้คนพึงมีต่อกัน ณ ชั้น 7 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมี พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นายนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน)และคณะผู้จัดงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ
ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงวาดภาพฝีพระหัตถ์ เพื่อจัดแสดงภายในงานและทอดพระเนตรนิทรรศการ และมีพระราชปฏิสันถารเกี่ยวกับแนวความคิดในการสร้างสรรค์งานศิลปะกับผู้ได้รับรางวัลการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 9 และผู้ร่วมแสดงผลงาน
นางสาวธมลวรรณ แสงนาค ผู้ได้รับรางวัลช้างเผือก ภายใต้ผลงานชื่อ เสน่ห์ศิลป์แผ่นดินสยาม และเงินรางวัล 1,000,000 บาทกล่าวว่า
“กรมสมเด็จพระเทพฯ รับสั่งว่าสยามเมืองยิ้มมีอะไรบ้าง จึงกราบบังคมทูลว่า ความรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรม สะท้อนผ่านงานแลนด์สเคปเป็นงานที่ตนเองถนัด โดยนำเทคนิคการผ้าพิมพ์ตะแกรงไหมและวัสดุผสม นำมาทำเป็นลวดลายดอกปีบ สัญลักษณ์เมืองพิษณุโลก บ้านเกิดของตนเอง ทิวทัศน์เมืองต่างๆ เช่น พระบรมมหาราชวัง ตลาดน้ำอัมพวา เทศกาลงานวัด เป็นวิถีชีวิตของคนไทยที่เรียบง่าย”
ด้านนางสาวนิลยา บรรดาศักดิ์ ผู้ชนะรางวัลชนะเลิศ ในผลงานชื่อ สุขสัมพันธ์ สามัญวิธี รับเงินรางวัล 500,000 บาท เปิดเผยว่า
“กรมสมเด็จพระเทพฯ รับสั่งว่า ทำผลงานชิ้นนี้นานมั้ย ผลงานทำมาจากด้ายหรือ จึงกราบบังคมทูลว่า ในเวลา 2 เดือน ใช้วัสดุด้ายสังเคราะห์ ได้แรงบันดาลใจมาจากครอบครัวของตนรวมตัวกันทำกิจกรรม ซึ่งในภาพนี้ เป็นภาพครอบครัวลุยโคลนจับปลานาข้าว เพื่อนำมาเป็นอาหารในวันขึ้นปีใหม่ ช่วงเวลานั้นทุกคนมีความสุขมาก
นายมานนท์ สุธรรม ผู้ชนะรางวัล CEO AWARD ในผลงานขื่อ ผมทรงกะลาครอบ พร้อมรับเงินรางวัล 250,000 บาท เผยว่า
“กรมสมเด็จพระเทพฯ มีพระราชปฏิสันถารว่า ผมทรงกะลาเมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้ ตกลงทรงนี้นำกะลามาครอบใช่ไหม ผมจึงกราบบังคมทูลว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่ช่างตัดผม ตัดตามแบบกะลาครอบศีรษะ อีกทั้งพระองค์ท่านรับสั่งว่า ต่อมาทรงผมนี้กลายเป็นทรงขันครอบ ก่อนจะทรงถ่ายรูปแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรผลงานภาพอื่นๆ ซึ่งโดยส่วนตัว ผมก็เคยตัดทรงกะลาครอบ ตอนเป็นเด็กประถมและโดนเพื่อนล้อเป็นประจำ สำหรับประกวดผลงานศิลปกรรมช้างเผือก ผมส่งผลงานมาแล้ว 6 ครั้ง ได้เข้ารอบรับรางวัล5 ครั้ง ในทุกครั้งผมตั้งเป้าหมายว่า เป็นการทดสอบฝีมือตนเองว่า พัฒนาไปถึงไหน เพราะผมเรียนจบมาจากสายอาชีวะ ไม่ได้เรียนศิลปะโดยตรง ก็อยากทำผลงานให้ดีที่สุด และหวังว่าสักวันจะได้รับรางวัลช้างเผือกเหมือนกันผู้ชนะรายอื่นๆบ้าง”
นอกจากนี้ยังมีรางวัลรองชนะเลิศ 5 รางวัล รางวัลละ 200,000 บาท และรางวัลชมเชยอีก 13 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท สำหรับการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) มีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถทางศิลปะอันโดดเด่น ในการสร้างสรรค์ศิลปะแบบเหมือนจริง (Realistic) และศิลปะรูปลักษณ์ (Figurative Art) โดยยึดถือความเหมือนจริงเป็นแก่นสำคัญเพื่อให้ผลงานศิลปะเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สำคัญ ในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านศิลปะร่วมสมัยให้ขยายไปสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง
การดำเนินการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 และดำเนินงานต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้แสดงฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ โดยตีความจากโจทย์ที่กำหนดให้ ซึ่งในปีนี้มีศิลปิน 205 คนส่งผลงานร่วมประกวด 235 ชิ้น มีผลงานที่ได้รับรางวัลจำนวน 21 ชิ้น และผลงานร่วมแสดงในนิทรรศการ 34 ชิ้น
เปิดให้ประชาชนเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 กันยายน 2563