ภัยซ่อมอู่! 2 สาวแจ้งตร.จับ 'เสี่ยอู่รถ' หัวหมอหลอกทำประกัน เอาเงินเคลมรถนับแสน

ที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขน กทม. นางสาวกัญณัฏฐ์ พร้อม นางสาวพิชญา (ขอสงวนนามสกุล) เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของอู่รถยนต์ย่านรามอินทราซอย 5 หลังนำรถที่ตนนำไปซ่อมไว้ไปเฉี่ยวชน กับคู่กรณีเพื่อเรียกเงินค่าสินไหมกว่า 120,000 บาท พร้อมนำหลักฐานคลิปเสียงการสนทนาระหว่างตัวเองกับเจ้าของอู่มามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา

นางสาวกัญณัฏฐ์ กล่าวว่า เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เข้าทำสีรถที่อู่แห่งนี้ ในราคา 20,000 บาท จากนั้นเจ้าของอู่ได้โน้มน้าวให้ซื้อประกันภัยรถยนต์โดยอ้างว่าบริษัทประกันสามารถเข้ามาเคลม เพื่อนำมาลดค่าใช้จ่ายในการทำสีรถได้ ซึ่งอู่จะลดราคาค่าทำสีให้ครึ่งหนึ่ง เหลือ 10,000 บาท จึงตัดสินใจซื้อประกันภัยจากบริษัทแห่งหนึ่ง จากนั้นได้นำรถเข้าอู่เพื่อทำสีวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมจ่ายเงินมัดจำ 5,000 บาท โดยเจ้าของอู่ให้ตนไปเปิดสมุดบัญชีธนาคารเเละบัตรเอทีเอ็มฝากไว้ ซึ่งอู่อ้างว่าเพื่อเป็นการเบิกจ่ายเคลมประกันเงินทำสี เพราะอู่ตนไม่อยู่ในเครือบริษัทประกัน

นางสาวกัญณัฏฐ์ กล่าวต่อว่า กระทั่งวันที่ 8 สิงหาคม ตนไปรับรถพบว่ามีการทำสีไม่เต็มคันตามที่ตกลงไว้ ซึ่งมีการทำสีแค่ด้านนอก แต่ขอบประตูด้านในเป็นสีขาวซึ่งเป็นสีเดิม ซึ่งอ้างว่าที่ต้องทำแบบนี้ก็เพื่อเวลาไปขายต่อจะได้รู้ว่าสีเดิมคือสีอะไร ซึ่งตนมองว่าไม่น่าจะใช่จึงไม่ยอม จากนั้นเจ้าของอู่จะลดราคาให้ในส่วนที่ตนจะต้องเงินส่วนที่เหลือ 5,000 บาท เมื่อตรวจเช็คสภาพรถอย่างละเอียดพบว่าอะไหล่ชำรุด อุปกรณ์ภายในถูกถอดออก พวงมาลัยสั่น ล้อเเม็กเสียหาย และระบบไฟทั้งหมดมีปัญหา จึงนำรถกลับไปซ่อมที่อู่เดิมอีกครั้ง เพราะคิดว่าอู่ทำงานไม่เรียบร้อย พอกลับมารับรถกลับพบว่ารถมีสภาพชำรุดหนักกว่าเดิม ซึ่งจากการสอบถามบริษัทประกันรถยนต์ ก็ทราบว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีการเคลมประกันเฉี่ยวชนเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนถึง 6 ครั้ง รวมค่าสินไหมกว่า 1.2 แสนบาท พอตรวจสอบอย่างละเอียดจึงมาทราบว่ารถตนถูกขับไปชนกับรถของ น.ส.พิชญา ที่พุทธมณฑลสาย 3 ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่สน.บางเขน เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา

ด้าน นางสาวพิชญา กล่าวว่า ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาตนเอารถโตโยต้ายารีสไปทำสีที่อู่นี้ เพราะได้รับคำแนะนำมาว่ารับทำสีรถราคาไม่แพง ทั้งยังเห็นว่ามีรถจอดเยอะ จึงตัดสินใจไปเปลี่ยนสีรถจากสีขาวเป็นสีเทา ก่อนที่จะถูกโน้มน้าวให้ทำประกันภัยเหมือนกัน ซึ่งอู่ดำเนินการให้ทุกอย่าง ตนมีหน้าที่จ่ายเงินแล้วรับเล่มกรมธรรม์ออกมาเท่านั้น พอถึงวันนัดรับรถพบว่ากลับเป็นสองสี หมือนกันคือทำสีรถไม่เต็มทั้งคัน และแอร์ไม่เย็น ขับแล้วเหมือนเครื่องจะดับรวมถึงพวงมาลัยแข็งจึงไปซ่อมที่อู่อื่นเพราะไม่สบายใจที่จะให้อู่เดิมทำแล้ว

นางสาวพิชญา กล่าวว่า ต่อมาตนก็เห็นข่าวของนางสาวกัญณัฏฐ์ ก็พบว่าปรากฏภาพรถตนเป็นรถคู่กรณี จึงหาทางติดต่อกันจนทราบว่ามีการนำรถเข้าทำสีที่อู่เดียวกัน ตนจึงสอบถามบริษัทประกันก็ทราบว่าที่ผ่านมารถตนถูกชนไป 8 ครั้ง เคลมประกัน 3 ครั้ง เป็นเงิน 9 หมื่นกว่าบาท เมื่อไปเรียกร้องค่าเสียหายกับอู่นี้แต่กลับถูกปฏิเสธโดยเจ้าของอู่อ้างจะรับผิดชอบทุกอย่างแต่ก็เงียบ จนทุกวันนี้