จับตาจีนเผยเนื้อหาโรดแม็ปพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปี
จับตาจีนเผยเนื้อหาโรดแม็ปพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปี ขณะที่ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนทำให้จีนต้องปรับยุทธศาสตร์ใหม่เน้นพึ่งพาการใช้จ่ายในประเทศแทน
การปฏิรูปของจีนทำให้เกิดความหวังว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะเสนอโมเดลเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่คาดว่าจะเป็นวาระสำคัญในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในจีนทั้งในด้านความต้องการภายในประเทศ และการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
แหล่งข่าววงในด้านการกำหนดนโยบายของจีน ระบุว่า ในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เดือนต.ค.นี้จะมีการหารือเรื่องโมเดลการพัฒนารูปแบบใหม่แน่นอนและคาดว่าที่ประชุมจะกำหนดนโยบายในช่วง5ปีข้างหน้า หรือโรดแมปทางเศรษฐกิจด้วย
เมื่อเดือนพ.ค.ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เสนอยุทธศาสตร์การพัฒนาแบบวงจรคู่ สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจเฟสต่อไปซึ่งจะทำให้จีนเน้นพึ่งพา“วงจรภายในประเทศ”และวงจรการผลิต การกระจายสินค้าและการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก และวงจรคู่ของจีนจะได้รับการสนับสนุนจาก“วงจรระหว่างประเทศ”ที่จะช่วยให้จีนยังคงถูกหลอมรวมเข้ากับเศรษฐกิจโลก เปิดประเทศรับสินค้า เงินทุนและการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น
แหล่งข่าววงใน ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เนื่องจากความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลปักกิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไม่เป็นผลดีทั้งต่อจีน สหรัฐและทุกประเทศในโลก ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้จีนปรับยุทธศาสตร์ใหม่ หันมาเน้นพึ่งพาตลาดในประเทศที่ถือว่าเป็นตลาดใหญ่สุดของโลก
การประชุมของคณะกรรมการกลาง ที่เป็นองค์ประชุมของคณะบุคคลสำคัญกลุ่มใหญ่สุดของพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ เดือนต.ค.นี้จะเน้นหารือเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศช่วงปี 2564-2568 และถือเป็นการประชุมครั้งที่ 14 นับตั้งแต่จีนหันมาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วตามแผนพัฒนาประเทศฉบับแรกช่วงปี 2496-2500
“ยุทธศาสตร์การพัฒนาแบบวงจรคู่จะเป็นหัวใจสำคัญของการประชุมครั้งที่ 14 เกี่ยวกับแผนพัฒนาประเทศระยะ5ปี ซึ่งการจะทำให้แผนต่างๆเกิดความสำเร็จได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย”แหล่งข่าววงใน กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า ยุทศาสตร์ใหม่ที่มีองค์ประกอบของแผนพัฒนาประเทศช่วงปี2559-2563 ซึ่งครอบคลุมถึงการปฏิรูประบบซัพพลายและนโยบายเพื่อกระตุ้นการเติบโตของพื้นที่เขตเมืองและนวัตกรรมจะถูกปรับปรุงใหม่และจะมีการเปิดเผยในการประชุมประจำปีของสภาประชาชนจีนในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม มีการตีพิมพ์เผยแพร่รายละเอียดเกี่ยวกับแผนนี้น้อยมาก แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์และนักคิดกำลังเสนอการปฏิรูปหลายหลายรูปแบบที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเองได้ ทั้งยังช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจระยะยาวแก่จีนด้วย โดยคณะที่ปรึกษารัฐบาลจีน เรียกร้องให้มีการปฏิรูปเรื่องที่ดินและระบบถิ่นที่อยู่ให้เร็วกว่านี้ ซึ่งสองเรื่องนี้เป็นอุปสรรคสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการก้าวขึ้นมาเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภคและสังคมเมือง
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนและคนรวยที่เป็นตัวแปรสำคัญฉุดรั้งการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วนการปรับโครงสร้างบริษัทยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลจะช่วยบรรเทาปัญหาการบิดเบือนทางเศรษฐกิจในระดับลึกและช่วยยกระดับให้บริษัทของรัฐบาลก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นในระดับที่เท่าเทียมกับบริษัทเอกชนได้
“วงจรภายในประเทศจะไม่มีวันเกิด ถ้าเราปฏิรูปไม่สำเร็จ”ที่ปรึกษาของรัฐบาลจีนรายหนึ่ง ที่ปฏิเสธเปิดเผยชื่อ ให้ความเห็น
ในการประชุมร่วมกับบรรดานักเศรษฐศาสตร์จีน เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ประธานาธิบดีสี ให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการต่างๆมากขึ้นเพื่อกำจัดข้อกีดกันเชิงสถาบัน พร้อมทั้งยืนยันที่จะให้กลไกตลาดทำงานอย่างเต็มที่มากขึ้นในระบบเศรษฐกิจ
เมื่อเดือนเม.ย.คณะรัฐมนตรีจีนได้เผยแพร่แนวทางปรับปรุงการแบ่งสรรปันส่วนองค์ประกอบด้านการผลิตที่ยึดแนวทางตลาดมากขึ้น ซึ่งรวมถึง เรื่องที่ดิน แรงงาน เทคโนโลยีและเงินทุน เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปที่เน้นเปิดตลาดมากขึ้น ซึ่งการปรับสมดุลเศรษฐกิจครั้งนี้ นอกจากเน้นพึ่งพาการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้นแล้ว ยังลดพึ่งพาการลงทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพและการส่งออกที่เปราะบางซึ่งจีนพึ่งพามานับสิบปีด้วย
ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ที่ปรึกษาและนักเศรษฐศาสตร์จีนจำนวนมากผิดหวังที่แผนปฏิรูปของจีนดำเนินไปอย่างเชื่องช้ามาก เนื่องจากรัฐบาลปักกิ่งที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเสถียรภาพของประเทศเป็นหลักไม่ค่อยสนใจผลลัพธ์ของการปฏิรูปและชะลอแผนปฏิรูปด้านต่างๆมาตลอด โดยเฉพาะแผนปฏิรูปที่มีการเปิดเผยครั้งแรกในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อปี 2556 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้กำหนดและควบคุมนโยบายทุกอย่างในสังคม
“ถ้าเราต้องการพึ่งพาวงจรภายในประเทศ เราต้องผลักดันให้เกิดการปฏิรูปด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างแท้จริง ”เจีย กัง หัวหน้าสำนักงานไชนา อะคาเดมี ออฟ นิว ซัพพลาย-ไซด์ อีโคโนมิคส์ ซึ่งเป็นหน่วยงานนักคิดในจีน ให้ความเห็นทิ้งท้าย