พิษโควิดรถขนส่งสินค้าจอดคาด่านแม่สาย
ผู้ประกอบการขนส่ง-ค้าชายแดนกว่า 600 ราย ลงทะเบียนยื่นโควต้าขนส่งสินค้า ขณะที่มีรถบรรทุกรอข้ามพรมแดนคาด่านแม่สายจำนวนหลายคัน แต่ทางเมียนมาควบคุมให้เข้าได้เพียงวันละ 6 คัน หวั่นกระทบสินค้าพืชผัก-อาหารเน่าเสีย เหตุขนส่งข้ามแดนถูกจำกัด
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 ก.ย.63 ที่สำนักงานของหอการค้า อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย นางสาวผกามาศ เวียร์รา ประธานหอการค้าอำเภอแม่สาย ได้เปิดให้ผู้ประกอบการขนส่ง ชิปปิ้ง การค้าชายแดน จำนวน 600 ราย ได้เข้าไปลงทะเบียน เพื่อจัดลำดับส่งออกสินค้าข้ามไปยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ตามโควต้าที่ทางการท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก กำหนดให้ไปได้วันละเพียง 6 คัน โดยมีผู้ประกอบการไปลงทะเบียนไม่น้อยกว่า 300 คัน ก่อนที่จะร่วมประชุมหารือ เพื่อหาวิธีแก้ไขและจะนำเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝั่งไทยและเมียนมา
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น จากกรณีคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ได้มีคำสั่งในการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ฉบับที่ 22 กำหนดให้รถยนต์ตู้บรรทุกสินค้าจากประเทศเมียนมาข้ามมารับสินค้าใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้วันละ 168 คัน โดยให้มีการเปลี่ยนคนขับเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยก่อนเข้าสู่ชั้นในของประเทศ มีผลตั้งแต่วันน17 ก.ย.63 ต่อมาทาง จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาได้มีคำสั่งอนุญาตให้รถสินค้าไทยเข้าไปในเมียนมาวันละเพียง 6 คัน และรถจากเมียนมามายังฝั่งไทยได้เพียง 6 คัน ได้ทำให้การค้าชายแดนที่จุดผ่านแดนถาวรตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย มีความแออัดเนื่องจากตามปกติจะมีการขนส่งสินค้าผ่านจุดดังกล่าววันละกว่า 300-400 เที่ยวตลอดทั้งวัน ส่งผลให้รถบรรทุกสินค้าทั้งรถขนาดใหญ่โดยเฉพาะรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าอุปโภคบริโภค จอดรออยู่ที่ด่านพรมแดนโดยบางส่วนเป็นพืชผักและอาหารได้นำมาวางกองกันริมทางโดยไม่มีความชัดเจนว่าจะสามารถข้ามพรมแดนไปได้หรือไม่
สำหรับการส่งออกสินค้าไปยังประเทศเมียนมาที่สะพานแห่งที่ 2 ที่ อ.แม่สาย ตั้งแต่เดือน ต.ค.2562-ส.ค.2563 มีสินค้าไทยส่งออกไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก มูลค่า 12,244,019,935.60 บาท โดยเป็นการส่งออกมูลค่า 10,803,646,550.06 บาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีมากถึง 4,551,742,832.64 บาท น้ำมันเชื้อเพลิง 2,321,141,738.28 บาท สุรา 1,168,833,962.22 บาท ปูนซีเมนต์ 597,971,136.79 บาท เครื่องดื่ม 584,629,823.74 บาท ไวน์ 346,959,654.18 บาท ไฟฟ้า 297,327,916.48 บาท เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว 274,034,274.69 บาท เหล็กเส้นและเหล็กข้ออ้อย 248,726,900.66 บาท ผ้าอ้อมสำเร็จรูปและผ้าอนามัย 212,965,268.06 บาท
ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 1,440,373,385.54 บาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตรา เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1,127,377,485.75 บาท ผลส้มสด 54,542,400 บาท ไม้สักแปรรูป 40,169,583.65 บาท ใบชา 18,060,039.02 บาท แร่แมงกานีส 103,621,093.34 บาท เศษเหล็ก 37,510,686 บาท เศษอลูมิเนียม 14,885,300 บาท ทำให้ด่านศุลกากรแม่สายสามารถจัดเก็บรายได้เข้าประเทศจากอากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตและภาษีมหาดไทย ได้รวมกัน 23,784,161.39 บาท และจากมาตรการของฝ่ายเมียนมาดังกล่าวทำให้หอการค้า จ.เชียงราย คาดการณ์ว่ามูลค่าการค้าจะลดลง