เว็บพนันพุ่ง 558 เว็บ เม็ดเงินสะพัดหมื่นล้าน
ผลสำรวจเผยช่วงโควิด19 เด็กไทยอายุต่ำกว่า15-25ปี เล่นการพนันเพิ่มมากขึ้น เผยปัจจัยเห็นโฆษณาออนไลน์ เว็บพนันขยายเปิด 558 เว็บ และเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ แนะภาครัฐ ปรับกม.ใหม่ เพิ่มบทลงโทษผู้เล่นมากขึ้น
จากการสำรวจพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนกับการใช้สื่อออนไลน์และภัยจากพนันออนไลน์ในช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ที่ดำเนินการโดยสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่าย ทำการสำรวจเยาวชนอายุต่ำกว่า15-25 ปี จากทั่วประเทศ จำนวน 1,089 คน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-31 พ.ค. 2563 ซึ่งแบ่งเป็นผู้ชาย 2.46% ผู้หญิง 70.6% กลุ่มเพศทางเลือก 2.84% และไม่ระบุเพศ 1.93% ส่วนใหญ่เป็นเด็กมัธยมศึกษาตอนปลาย และปริญญาตรี พักอาศัยอยู่กับพ่ออแม่ ญาติผู้ใหญ่ และอยู่คนเดียว พบว่า เด็กสนใจเข้าไปเล่นการพนัน13.24 %
โดย 5 อันดับประเภทการพนันที่เด็กและเยาวชนเล่นมากที่สุดได้ แก่ ยิ่งปลา 31.68% แทงหวย 19.80 % เกมสล็อต17.82% บาคาร่า 15.84% และทายผลกีฬา 14.85% โดยเกมยิงปลาเป็นเกมที่เด็กและเยาวชนเล่นมากที่สุด เนื่องจากมีลักษณะที่ไม่เหมือนกับการพนันแต่เป็นการเล่นเกมที่มีโอกาสได้เงิน
ทั้งนี้ สำหรับเครื่องมือสื่อสารในการเล่น ได้แก่ สมาร์ทโฟน 96.97% โน้ตบุค 21.76% คอมพิวเตอร์ 9.09 %และแท็ปเล็ต 5.51% สำหรับปริมาณเครื่องมือสื่อสารเฉลี่ยต่อชั่วโมง ก่อนโควิด 19 พบว่า มีเด็กและเยาวชน 32.13% เล่น6 ชั่วโมงขึ้นไป แต่หลังโควิด 19 มีเด็กและเยาวชน 48.20% เล่น 6 ชั่วโมงขึ้นไป
โควิด19เว็บพนันเปิดเพิ่ม558เว็บไซต์
นอกจากนั้นคณะผู้จัดทำ ได้มีการสำรวจ จำนวนเว็บไซต์พนันออนไลน์ พบว่าขณะนี้มีเว็บไซต์การพนันออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เป็น 558 เว็บไซต์ โดยในช่วงก่อนเการแพร่ระบาดของโควิด19 จะมีเว็บไซต์พนันออนไลน์ 240 เว็บไซต์ แต่เมื่อช่วงระยะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส มีเว็บไซต์พนันออนไลน์เพิ่มเป็น 440 เว็บไซต์ และช่วงคลายมาตรการ 1 ก.ค.2563 มีเว็บไซต์การพนันเพิ่มขึ้นเป็น 558 เว็บไซต์ โดยปัจจัยที่ทำให้คนไทยเล่นการพนันมากขึ้น เนื่องจากการพบเห็นโฆษณาชวนให้เล่นพนันหรือเสี่ยงโชค มีเว็บการพนันเพิ่มมากขึ้น และปากท้องทางเศรษฐกิจ
โดยการพบเห็นโฆษณา พบว่ากลุ่มสำรวจ70.6% จะเห็นโฆษณาชวนให้เล่นพนันหรือเสี่ยงโชค ซึ่งช่วงอายุที่พบเห็นโฆษณามากที่สุด คือ 15-19 ปี หรือ 47.4% ส่วนช่องทางที่พบเห็นโฆษณา แบ่งเป็นดังนี้ เฟสบุ๊ค 76.53% เว็บไซต์70.64% line 32.50% อินสตราแกรม 25.56 % ทวิสเตอร์ 15.33% และอีเมล์ 7.86% ขณะที่เรื่องของปากท้องทางเศรษฐกิจเมื่อประชาชนไม่มีเงิน ซึ่งถือเป็นปัจจัย 4 ของคน ทำให้ต้องไปหาเงินโดยช่องทางการพนันมากขึ้น
แรงบันดาลใจกลยุทธ์เว็บพนัน
นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าช่วงที่ทุกคนหยุดเชื้อ และแม้จะไม่มีการแข่งขันกีฬา กลับพบว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับการเล่นพนันมากขึ้น สถาบันฯได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่ก่อนระบาด ช่วงระบาด และหลังระบาด พบว่า เว็บไซต์พนันออนไลน์เพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าคนเข้าถึงเว็บการพนันได้มากขึ้น และคนมีความต้องการจะเล่นพนันสูงขึ้น เนื่องจากช่วงอยู่บ้านหลายคนอาจจะไม่มีกิจกรรมอะไรทำ จึงอาจมองว่าเล่นพนัน เสี่ยงโชคจะช่วยเพิ่มรายได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงมีแต่ยิ่งเล่นยิ่งเสียมากกว่าได้
“กลุ่มวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่เข้าสู่วงจรการพนันสูงที่สุด เพราะขณะนี้รูปแบบการพนันเปลี่ยนแปลงไป และเว็บพนันออนไลน์ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เชิญชวนให้เด็กและเยาวชนมาเล่นมากขึ้น เช่น มีการโพสต์รูปคนหล่อ รูปร่างดี คนสวยเซ็กซี่ ชวนให้กดดูโพสต์และโฆษณาพนันออนไลน์ หรือ โพสต์แคปชั่น คำคม คำพูดสร้างแรงบันดาลใจให้กดไลน์กดแชร์ รวมถึงการโพสต์อวดเงินในบัญชีจากการเล่นพนันออนไลน์ และแฝงโฆษณาพนันออนไลน์มาในวิดีโอ หรือใช้เน็ตไอดอลต่างๆ มาโฆษณาชวน เป็นต้น ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้เป็นตัวล่อให้คนรุ่นใหม่มาเล่น แถมการพูด การโพสต์มักจะหลีกเลี่ยงคำว่าพนันแต่จะใช้ว่าเล่นเกมได้เงิน ลองลแล้วได้ ทำให้เด็กเข้าไปเล่นจนทำให้เสียเงินเป็นจำนวนมาก” นายพชรพรรษ์ กล่าว
คาดเงินสะพัดหมื่นล้านบาท
นายพชรพรรษ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้แม้จะพบว่ามีเด็กและเยาวชนเล่นการพนัน 30-40% ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นหลังจากการเกิดโควิด 19 หน้าที่ของสถาบันฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาครัฐต้องช่วยให้เด็ก 30-40% ออกจากวงจรของการพนันและปกป้องเด็ก 60-70% ที่เหลือไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน ยิ่งกลยุทธ์การพนัน ปรับภาพลักษณ์ ไม่มีการใช้คำว่าพนัน เป็นเกมยิงปืน ตกปลา เก็บเพชร แต่รูปแบบล้วนมีการซื้อขายและแลกเป็นเงิน หรือมีการทายผลต่างๆทำให้คนทุกเพศทุกวัยเล่นได้โดยไม่รู้สึกว่าเล่นพนัน
“เท่าที่ทราบ มีเงินหมุนเวียนในระบบจากเว็บพนันประมาณมากว่า 10,000 ล้านบาท เพราะยังไม่มีหน่วยงานใดสามารถเก็บข้อมูลได้ เนื่องจากการพนันมีหลายรูปแบบ และถ้าเป็นการพนันออนไลน์ เว็บไซต์ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศอยากให้ภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม หรือกระทรวงดีอีช่วยปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ทั้งหมด อย่าอ้างว่าปิดไม่ได้ เพราะเปิดจากต่างประเทศ ต้องปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง” นายพชรพรรษ์ กล่าว
จี้รัฐแก้กม.เพิ่มโทษผู้เล่นมากขึ้น
ทั้งนี้ ผลกระทบจากการเล่นพนันออนไลน์จะเกิดทั้งมิติทางสุขภาพกาย จิตใจ ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ลักเล็กขโมยน้อย ใช้เงินมือเติบ ทำให้สูญเสียเงินและความสัมพันธ์ต่างๆ ขณะเดียวกันการเล่นพนัน เมื่อมีการลุ้นบ่อยๆ สมองส่วนหยั่งคิดลดลง ภาวะการควบคุมตนเองลดลง ฉะนั้นเชื่อว่าทั้งคนเล่นและไม่เล่นต่างก็รู้ผลเสีย แต่เมื่อไปเล่นแล้วบางคนอาจหยุดไม่ได้ รัฐบาลต้องแก้กฎหมายการพนัน มีบทลงโทษผู้เล่นที่รุนแรงมากขึ้น ไม่มีคำนิยามของ พนันออนไลน์ ไม่มีคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจังเหมือนพ.ร.บ.เหล้าหรือบุหรี่ อยากฝากเจ้าหน้าที่รัฐขอให้พยายามจับกุม ขณะที่เด็กและเยาวชน อย่าหลงเชื่อโฆษณาต่างๆ ต้องมีสติและเท่าทันของข้อมูลด้วย
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่าการเล่นพนันออนไลน์ขยายตัวมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการแก้กฎหมาย ที่ควรมีเจ้าภาพหลักในการจัดทำกฎหมายมีคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องนี้เช่นเดียวกับกฎหมายเหล้า หรือบุหรี่ จะทำให้มิติของการแก้พนันชัดเจนมากขึ้น และนอกจากแก้กฎหมายเพื่อการกำกับ ควบคุม ปราบปรามแล้วควรมีกลไกอื่นๆ เช่น การนำเสนอด้านผลกระทบ การสร้างให้ความรู้ การเยียวยาต่างๆ เป็นต้น
ติงบาคาร่าไม่ทำให้รวย
ด้านนายเอ (นามสมมติ) อายุ18 ปี อดีตเหยื่อพนันบาคาร่า กล่าวว่า รู้จักเว็บพนันออนไลน์มาจากรุ่นพี่ และเพื่อนๆตั้งแต่อายุ 14 ปี เข้าสู่วงจรการพนัน เริ่มจากเล่นบาคาร่า เล่นครั้งแรก 100 บาท ก็ได้กลับมาส่วนหนึ่ง จึงเล่นต่อมาเรื่อยๆ ยิ่งได้กลับมาเป็นหมื่น จนกระทั่งเสียเงิน 40,000 บาท ต้องไปยืมเงินของรุ่นพี่มาจ่าย เมื่อถึงวันกำหนดส่งเงินไม่มีต้องขายมอเตอร์ไซต์ที่เก็บเงินซื้อมา แต่ก็ชำระหนี้ได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ต้องทำงานหาเงินใช้หนี้ โดยตลอดเวลาปีครึ่ง ที่เล่นบาคาร่า พนันบอล และสล็อตด้วย เสียไปรวมกว่าแสนบาท แต่การเล่นพนันไม่มีใครเล่นแล้วรวยตอนนี้ กลับไปเรียนหนังสือ ทำงานหาเงินส่งเสียตัวเองเรียน และจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันอีก ไม่อยากจะเอาเงินเอาอนาคตของตัวเองมาเสี่ยงอีก อยากฝากเพื่อนๆ น้องๆ ทุกคน การพนันตอนเล่นอาจสนุกตื่นเต้นแต่ไม่คุ้มกับเงิน และเวลาที่เสียไป ชีวิตมีอะไรให้ทำอีกมากมาย ที่สำคัญคนเล่นพนันไม่ทำให้รวย