ทบ.สานต่ออุดมการณ์ค้ำสถาบัน 'ม็อบปลดแอก' นัดหน้ารัฐสภา กดดันปิดสวิตช์ ส.ว.

“ดีอีเอส”แจ้งเอาผิดโพสต์หมิ่นสถาบันฯชุมนุม19 ก.ย.

 วันเดียวกันนี้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ในวันที่ 24 ก.ย. จะส่งตัวแทนของกระทรวงดีอีเอสไปแจ้งความที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปทอ.) ให้ดำเนินคดีกับผู้โพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันในสื่อสังคมออนไลน์

รวมทั้งการยุยงปลุกปั่น ตามความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ภายหลังเก็บหลักฐานได้มากพอสมควร จากชุมนุมเมื่อวันที่ 19 - 20 ก.ย.แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นบุคคลกลุ่มใด

“ขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นเว็บไซต์หรือข้อความในโชเชียลมีเดียที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน ขอให้แจ้งเข้ามาที่อาสาจับตาออนไลน์ เพื่อดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”นายพุทธิพงษ์ กล่าว

“ปชช.ปลดแอก”กดดันปิดสวิตช์ส.ว.

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนปลดแอก ได้สื่อสารกับมวลชนทางช่องทางโซเชียลมีเดีย ถึงนัดหมาย วันนี้ เวลา 16.00 น. ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย และจุดประสงค์ในการรวมตัวชุมนุม เพื่อกดดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นปิดสวิตช์ ส.ว. โดยระบุว่า ส.ว.คือหนึ่งในกลไกทางการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มีที่มาจากการ “สรรหาและแต่งตั้ง” ทั้งหมด ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย

โดยแต่ละขั้นตอนของการสรรหาและแต่งตั้งล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งสิ้น เพื่อให้ได้รายชื่อตามที่ คสช. ต้องการ เพื่อนำกลุ่มคนเหล่านี้มาใช้สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของตนเองต่อไป

250 ส.ว.รวมถึง ส.ว.โดยตำแหน่ง 6 คน ได้แก่ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทสส. ผบ.ทบ. ผบ.ทอ. ผบ.ทร. และ ผบ.ตร. จะต้องถูกขจัดออกจากกลไกทางการเมืองในรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เพราะกลุ่มคนเหล่านี้เป็นหุ่นเชิดของรัฐบาลคณะรัฐประหารแปลงรูป

เครือข่ายแรงงานฯนัดร่วมชุมนุม

เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน โพสต์เฟซบุ๊คระบุว่า “แก้รัฐธรรมนูญใหม่” คือหนึ่งใน 3 ข้อเรียกร้องหลักที่เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนเรียกร้อง นอกเหนือไปจากข้อเรียกร้องอื่นๆ ได้แก่ ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และสร้างรัฐสวัสดิการ

โดยวันที่ 24 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 16:00 น. เป็นต้นไป เครือข่ายแรงงานฯ ขอเชิญชวนพี่น้องแรงงานผู้รักประชาธิปไตยจากทุกภาคส่วน ทุกองค์กร รวมตัวกันที่ด้านหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อร่วมติดตามการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 และเปิดทางให้มีการตั้ง ส.ส.ร. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง

กิจกรรมจับ“ผบ.เหล่าทัพ”ลงหม้อ

ขณะเดียวกันวานนี้ (23 ก.ย.) ตัวแทนคณะประชาชนปลดแอก เดินสายจัดกิจกรรมดีเจ บนรถแห่ “จับ ส.ว. ลงหม้อ กระชากวิญญาณและพิธีกรรมจับผีร้าย ส.ว.” พร้อมกับรูปหน้าของพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทสส. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

โดยเดินทางไปยังกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพบก กองบัญชาการกองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประกอบพิธีกรรม โดยนำหม้อดินคลุมด้วยผ้าลงยันต์สีแดงพร้อมสายสิญจน์มาทำพิธีจุดเทียน พร้อมสวดคาถาเรียกวิญญาณด้วยภาษาลู พร้อมเรียกร้องให้ ผบ.เหล่าทัพ กลับมาทำงานในหน่วยงานที่สังกัด ไม่ไปดำรงตำแหน่ง ส.ว. หรือนั่งทำงานที่รัฐสภา

ไทยภักดีชุมนุมหน้าสภาค้านแก้รธน.

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี นำมวลชนเดินทางมาที่หน้ารัฐสภา เพื่อยื่น 130,000 รายชื่อ ที่ได้ร่วมลงนามคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา ผ่านผู้แทนประธานของ 2 สภา โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยย่อยหน้ารัฐสภาด้วย

โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า เราถือเป็นตัวแทนของ 16.8 ล้านเสียง ซึ่งลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 จึงคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ถ้ายังดื้อดึงเดินหน้าต่อโดยไม่ฟังเสียงของประชาชน เรื่องนี้จะจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีบรรทัดฐานจากศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้วเมื่อครั้ง สภาฯมีความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ว่า รัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามตินั้น ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ถูกสถาปนาโดยประชาชน รัฐสภาเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีฐานะต่ำกว่า จึงไม่มีอำนาจในการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ มีเพียงอำนาจในการแก้ไขเท่านั้น