‘ราเมศ’ เตือน ‘รุ้ง’ กลับไปถามพ่อ-แม่ว่า คำที่ใช้ด่า ‘ชวน หลีกภัย’ เหมาะหรือไม่
"ราเมศ" สอน "รุ้ง ปนัสยา" ให้กลับไปถามพ่อ-แม่ว่า คำที่ใช้ด่า "ชวน หลีกภัย" เหมาะสมหรือไม่
เมื่อวันที่ 25 ก.ย.63 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวพาดพิงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาว่า การทำหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตรงไปตรงมา ยึดข้อบังคับยึดรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ไม่มีแบ่งว่าใครจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นสมาชิกวุฒิสภา แต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่มีสมาชิกรัฐสภาได้ใช้สิทธิ์อาศัยข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อที่ 121 วรรคที่สาม ขอเสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการ
นายราเมศ กล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนั้นนายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานรัฐสภา ไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือบังคับสมาชิกรัฐสภาได้ แต่เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาทุกคนจเแสดงสิทธิ์ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โดยสุดท้ายที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญก่อนรับหลักการก็เป็นเพราะมติของสมาชิกรัฐสภา ทั้งนี้ ประธานรัฐสภาทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามหลักการตามข้อบังคับและรัฐธรรมนูญทุกประการ ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน หรือแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ทราบมาก่อนล่วงหน้า และเพิ่งมาทราบในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
"ต่อมานางสาวปนัสยา ได้ใช้โซเชียลมีเดียคือทวิตเตอร์ ทวีตถ้อยคำที่หยาบคาย หากใครได้อ่านก็ไม่สามารถรับได้และคิดว่าคนที่อ้างว่าเป็นคนรุ่นใหม่ แต่กลับใช้ถ้อยคำที่ต่ำเตี้ย หยาบคาย ใช้คำที่มีความหมายถึงอวัยวะเพศของผู้ชายพาดพิงนายชวน หลีกภัย และมีการแชร์ข้อความนี้เป็นจำนวนมาก" นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวของนางสาวปนัสยามาโดยตลอดถึงเมื่อวาน นายชวนได้แสดงความเป็นห่วงต่อผู้ชุมนุมอยู่เสมอ อีกทั้งยังได้กำชับให้ดูเรื่องความเรียบร้อย เน้นย้ำถึงความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและกำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลด้วยมิตรไมตรี ไม่ให้ใช้ความรุนแรง แต่คำพูดที่นางสาวปนัสยาใช้กล่าวพาดพิงนายชวน หลีกภัย ในลักษณะเช่นนี้ จึงจำต้องขอบอกว่าถ้าไม่มีใครบอกน้องได้ว่าถ้อยคำดังกล่าวมันเตี้ยต่ำ หยาบคายขนาดไหน ขอให้กลับไปถามพ่อกับแม่น้องดูว่าคำพูดเช่นนั้นควรพูดออกมาหรือไม่