โรงแรมสมุย 23 แห่งลุ้นผลตรวจประเมิน ALSQ รับแผนรัฐเปิดประเทศอย่างจำกัด ภาคเอกชนท่องเที่ยวชูโมเดลปั้น “อสร.”หรืออาสาสมัครประจำโรงแรมแห่งแรกของไทย คุมเข้ม-เฝ้าระวังโควิดภายในโรงแรม
นายเรืองนาม ใจกว้าง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ฝั่งตะวันออก กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงแรมในสมุยสมัครเพื่อรับการตรวจประเมินเป็นโรงแรมกักตัวทางเลือกในท้องถิ่น (Alternative Local State Quarantine :ALSQ) จำนวน 23 แห่ง โดยทางคณะกรรมการตรวจประเมินALSQของ จ.สุราษฎร์ธานีได้เข้าตรวจเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมาจำนวน 8 แห่ง ส่วนอีก 15 แห่งจะตรวจประเมินภายในเดือน ต.ค.นี้ ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมแบบพูลวิลล่า ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ติดถนนสายหลักและชุมชน เพื่อชุมชนจะได้ไม่ต่อต้าน และนักท่องเที่ยวหลบหนีออกจากห้องพักได้ยาก
“หากเกิดกรณีนักท่องเที่ยวหลบหนีจากห้องพักของโรงแรมก่อนครบกำหนดกักตัว 14 วัน จะสามารถติดตามตัวได้อย่างแน่นอน เพราะบนเกาะสมุยมีกล้องวงจรปิดติดทั่วเกาะกว่า 1,000 จุด”
นอกจากนี้ ทางภาคท่องเที่ยวสมุยยังกำหนดให้โรงแรมที่ผ่านการตรวจประเมินเป็นALSQมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครประจำโรงแรม (อสร.) เป็นแห่งแรกของประเทศไทย จำนวน 3 คนต่อแห่ง ได้แก่ COVID-19 Manager คอยประสานงานกับโรงพยาบาลคู่สัญญาหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ส่วนอีก 2 คนเป็นพนักงานในแผนกบริหารทรัพยากรมนุษย์ หรือFront Office Managerเพื่อคอยเฝ้าระวังความเสี่ยง และสังเกตผู้เข้าข่ายติดเชื้อ แล้วแจ้งโควิด-19 แมเนเจอร์ โดยจะจัดอบรม อสร.ของโรงแรมสมุยที่ผ่านALSQเป็นรุ่นที่ 2 ต่อจากรุ่นแรก 32 คนที่เพิ่งจัดฝึกอบรมไปเป็นการนำร่อง
“อย่างไรก็ตาม ค่อนข้างมั่นใจว่าจะควบคุมดูแลสถานการณ์ได้หลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสมุย เพราะมีประสบการณ์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 มาแล้ว”
นายวรสิทธิ์ ผ่องคำพันธุ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวเสริมว่า โรงแรมที่เข้ารับการตรวจประเมินเป็นโรงแรม ALSQจำนวน 23 แห่ง แต่ละแห่งมีจำนวนห้องพักราว 70 ห้อง หรือรวมกันแล้วมากกว่า 1,000 ห้องพัก
ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจประเมินALSQได้กำหนดว่าโรงแรมในสมุยที่ผ่านการประเมิน จะต้องเป็นโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีขนาดโรงแรมไม่ใหญ่ และต้องปิดทั้งโรงแรมเพื่อควบคุมโรค และมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และด้านสาธารณสุขเป็นคนดูแล โดยขอย้ำมาตรการคุมเข้มว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องกักตัวในห้องพักเท่านั้นเป็นเวลา 14 วัน และเมื่อครบกำหนดจะมอบใบรับรองและสายรัดข้อมือเป็นเครื่องยืนยันว่านักท่องเที่ยวรายนั้นๆ ผ่านการกักตัวแล้ว และเมื่ออยู่บนสมุยครบ 21 วันถึงจะอนุญาตให้เดินทางข้ามเกาะได้
“คาดไม่ต่ำกว่า 90%ของโรงแรมที่สมัครเป็นALSQจะผ่านการประเมิน เพียงพอต่อการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และน่าจะมีจำนวนเดินทางเข้าสมุยเดือนละ 200 คน จากที่ ศบค.กำหนดให้รองรับในช่วงแรก 1,200 คนต่อเดือน”
โดยภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ตัวแทนภาคเอกชนสมุยจะนำเสนอรายละเอียดความพร้อมของโมเดลสมุยบับเบิลภายใต้แนวทางการออกวีซ่านักท่องเที่ยวประเภทพิเศษSpecial Tourist VISA(STV)ต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. หลังได้นำมาปรับให้เข้ากับSTVที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา