WHAUP ลุ้นผลการดำเนินงานครึ่งหลังฟื้น รับกำลังผลิตไฟฟ้า-ยอดขายน้ำเพิ่ม
WHAUP มั่นใจผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังดีขึ้น เหตุกำลังผลิตไฟฟ้า และยอดขายน้ำเพิ่ม คาดรายได้ทั้งปีนี้ หด 20% จากผลกระทบภัยแล้งและมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงครึ่งปีแรก
นายนิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คาดว่า จะดีขึ้นเมื่อเทียบจากครึ่งปีแรก ที่มีรายได้ 1.24 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 360.93 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจไฟฟ้า จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) เพิ่มขึ้น 15 – 20 เมกะวัตต์ เพื่อขายไฟให้กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้สิ้นปี63 บริษัท จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น อยู่ที่ 592 เมกะวัตต์ จากปี 2562 มีกำลังการผลิต อยู่ที่ 559 เมกะวัตต์
ขณะที่ ธุรกิจน้ำ พบว่า ลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มปิโตรเคมีเริ่มกลับมาผลิตตามปกติแล้ว รวมถึง ลูกค้าใหม่ก็เริ่มเดินเครื่องจักร ทำให้ความต้องการใช้น้ำกลับมาเพิ่มสูงขึ้นในครึ่งปีหลัง ซึ่งน่าจะส่งผลให้ทั้งปีนี้ยอดขายน้ำ จะอยู่ที่ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร จากครึ่งปีแรก อยู่ที่ 57 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 10% รวมทั้งปริมาณสำรองน้ำในอ่างเก็บน้ำมันภาคตะวันออก ขณะนี้มีปริมาณน้ำสำรองใกล้เต็มที่ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงปัญหาน้ำขาดแคลนในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานทั้งปีนี้ คาดว่า จะมีรายได้รวมต่ำกว่าปีก่อนประมาณ 20% จากปี2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 3.88 พันล้านบาท เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก บริษัทได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ทำให้ภาคอุตสาหกรรมลดการใช้น้ำลงกระทบยอดการขายธุรกิจน้ำของบริษัท
อีกทั้ง ยังมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า Gheco-One ลดลงประมาณ 300 ล้านบาท จากอัตราค่าความพร้อมจ่ายลดลงตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และการมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี ทำให้บางอุตสาหกรรมต้องลดกำลังการผลิตทำให้ลดการใช้ไฟฟ้าลง
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนา ได้แก่ โครงการน้ำ Reclaimed อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) คาดว่า จะสามารถดำเนินการผลิตเต็ม สูงสุดจำนวน 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ภายในไตรมาส 4 ปีนี้, โครงการน้ำ ปราศจากแร่ธาตุ ระยะที่ 2 ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) ดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 ปีนี้ กำลังการผลิตจำนวน 4,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการร่วมกับกลุ่ม ปตท. เพื่อให้บริการบำบัดน้ำเสีย ภายในโครงการ EECi วังจันทร์วัลเลย์ กำลังการผลิต 4 แสนลูกบาศก์เมตรต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จและดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้